ทักษิณ สวมเสื้อสมัยนั่งนายกฯ กินไข่กระทะ

View icon 1
วันที่ 14 พ.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายทักษิณ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนาย อบจ.อุดรธานี หาเสียง ประกาศกลางปีหน้าคนไทยจะเห็นแสงสว่าง และปลายปีเศรษฐกิจจะคึกคัก พร้อมย้ำสานต่อแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 แน่นอน

ทักษิณ สวมเสื้อสมัยนั่งนายกฯ กินไข่กระทะ
ช่วงเช้าก่อนขึ้นเวทีปราศรัย นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ พร้อมนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ และแกนนำพรรคเพื่อไทย มาร่วมรับประทานอาหารเช้าเมนูไข่กระทะ ข้าวเปียกเส้น ชานมร้อน ข้าวเกรียบ และขนมปังที่ร้านคิงส์โอชา จังหวัดอุดรธานี พร้อมบอกว่า อาหารอร่อย ไม่ได้กินมานานแล้ว

โดยนายทักษิณ บอกว่า เสื้อที่สวมเสื้อวันนี้ เป็นเสื้อที่เคยใส่ตั้งแต่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี 20 ปีก่อน จึงเอาไปซักแห้ง ​แล้วมาใส่ใหม่ หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น นายทักษิณ​ จะเดินทางต่อไปที่ตลาดนัด​ 4 ธันวา อำเภอบ้านดุง​ เพื่อขึ้นเวทีปราศรัย​ครั้งที่​ 2

ทักษิณ ลั่นกลางปีหน้าคนไทยเห็นแสงสว่าง
ช่วงเช้าวันนี้ ที่ตลาดศรีธัญวา อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นวันที่ 2 เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทยหาเสียง

นายทักษิณ กล่าวทักทายพี่น้องชาวอุดรธานีว่า คิดฮอดคนอุดรหลายแท้ สาเหตุที่เลือกมาจังหวัดอุดรธานีเพราะคิดถึงพี่น้องชาวอุดรธานี วันนี้เห็นสภาพพี่น้องก็เป็นห่วง ตนถูกปฏิวัติออกไป 17 ปี แต่พี่น้องยังลำบากอยู่ ทั้งนี้ นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน

นายทักษิณ บอกว่า สิ่งที่นายกฯ อิ๊งค์ มีอยู่เหมือนตนทุกอย่าง คือ ความรักและความห่วงใยพี่น้องประชาชน คิดว่าต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ได้ เชื่อว่า กลางปีหน้าพี่น้องประชาชนจะเห็นแสงสว่าง

ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจที่คึกคักมาก พร้อมยืนยันว่า การแจกเงิน 10,000 บาทมาแน่ ถือว่า มาช้าดีกว่าไม่มา เพราะเป็นวัฒนธรรมที่สืบมาจากพรรคไทยรักไทยที่พูดอะไรแล้วต้องทำ แต่วันนี้ทำยากกว่าเมื่อก่อน

นายทักษิณ ยังฝากพี่น้องว่า วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ใครค้ายาระวังตัวให้ดี เพราะทักษิณเกลียดพ่อค้ายา ถ้าอยากให้ทักษิณรัก ต้องเลิกค้ายา มาทำมาหากินสุจริตกันดีกว่า

ทักษิณ ซัดการเมืองเฮงซวย เสียดายคนไม่หายจน
นายทักษิณ ปราศรัยว่า ใจตนเป็นห่วงที่สุดคือ คนรากหญ้า แต่สิ่งที่ยากคือ นักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตาม วันนี้ต้องเลิกดัดจริต ต้องอยู่กับความเป็นจริงว่าบ้านเมืองต้องการการพัฒนาสูงมาก ทุกวันนี้ระบบราชการเทอะทะควบคุมมากเกินไป ประเทศจะเจริญได้ต้องลดอำนาจภาครัฐ เพิ่มอำนาจให้ภาคประชาชน

ส่วนใครโดนคอลเซ็นเตอร์หลอก นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า หากธนาคารไม่ดูแล ต่อไปธนาคารต้องมาร่วมรับผิดชอบ ซึ่งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่เมียนมา ใช้ระบบสื่อสารไทย ใช้ไฟฟ้าไทย นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า บริษัทที่ทำโทรศัพท์ทั้งหลาย หากใครให้บริการข้ามเขต ต้องถือว่าเป็นจำเลยร่วม ต้องจัดการเด็ดขาด

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า นึกว่าตนไม่อยู่ 17 ปี คนอุดรฯ จะหมดหนี้แล้ว อุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2 รอบ แต่ยังจนอยู่ ขออย่าไปเชื่อหวยเถื่อนทั้งหลาย และอย่าไปเชื่อสายมูมาก เชื่อหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าดีที่สุด

ช่วงท้ายนายทักษิณ ยังฝากนายศราวุธ ผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. เบอร์ 2 ให้พี่น้องเลือกมาเป็นนายก อบจ. และต้องชนะให้ถล่มทลาย ช่วงชีวิตนี้เป็นช่วงชีวิตที่ตนมีความสุขมากที่สุด แม้จะโดนร้อง โดนเห่าหอนบ้าง แต่อย่าไปใส่ใจ หมาอยู่ส่วนหมา คนก็อยู่ส่วนคน

หลังจากปราศรัยเสร็จ นายทักษิณ ได้ลงจากเวที มาพบปะกับแฟนคลับ ทั้งจับมือและรับดอกไม้ บางรายก็ขอกอดนายทักษิณ บางรายขอถ่ายรูปคู่กับนายทักษิณ

ทักษิณ เชื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอม
จากนั้น ช่วงเที่ยง นายทักษิณ ได้เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยง ร้านวีทีแหนมเนือง จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ย้ำหลายครั้งว่า ตัวเอง "กลับมาแล้ว" บนเวทีปราศรัยว่า ไม่มีอะไร แค่อยากช่วยบ้านเมือง ในฐานะเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นคนไทย อดไม่ได้ที่จะห่วงใยบ้านเมือง จึงต้องตั้งตำแหน่งให้ตัวเองว่า "สทร." (เสือกทุกเรื่อง) ด้วยความห่วงใย

ส่วนอายุรัฐบาล เท่าที่วิเคราะห์ คิดว่าน่าจะอยู่ครบเทอม ไม่น่ามีอะไรที่เป็นปัญหา ส่วนคดีความต่าง ๆ ที่นายกรัฐมนตรีโดนร้องเรียนนั้น มองว่าบ้านเรากฎหมายอยู่ที่คนจะตีความ ถ้าคนอยากจะหาเรื่องก็คิดหาเรื่องได้ทุกวัน อย่าไปให้ความสำคัญมาก

ส่วนที่พูดบนเวทีว่า กลางปีหน้าประเทศไทยจะมีแสงสว่างนั้น เชื่อว่างานที่นายกฯ คุยกับตนจะเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้น ซึ่งนายกฯจะแจ้งก่อนสิ้นปีนี้ และจะสัมฤทธิ์ผลแทบทุกอย่าง ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการแก้ไขปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน

ทักษิณ ขึ้นปราศรัยเวทีสุดท้าย
จากนั้น เวลา 17.30 น. นายทักษิณได้เดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัย ที่ทุ่งศรีเมือง อำเภอเมืองอุดรธานี ที่ป็นเวทีใหญ่ที่สุดของการหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.ในครั้งนี้ โดยมีผู้ฟังปราศรัย จาก 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเพ็ญ อำเภอหนองวัวซอ และ อำเภอหนองหาน

ทักษิณ แย้มผู้สูงวัยใกล้ได้เงินหมื่น ลุ้นข่าวดี ธ.ค.
ส่วนการปราศรัยเมื่อวาน ที่วัดศรีนคราราม นายทักษิณ ได้พูดถึงหลายเรื่อง โดยพูดถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว บอกว่า เห็นแววตั้งแต่เด็กว่า จะเป็นนายกฯที่ดี และดีกว่าตน โดยยืนยันว่า ไม่มีสิทธิ์ครอบงำลูก ต้องให้ลูกครอบงำแทน สิ่งที่นายกฯเป็นห่วง คือ หนี้สินของชาวบ้าน กลัวจะโดนยึดบ้านหรือรถ

นายกฯ บอกว่า เดี๋ยวเดือนธันวาคมจะบอกกับชาวบ้านให้ฟัง ว่าจะลดหนี้ให้ชาวบ้านอย่างไร และจะให้ชาวบ้านมีโอกาสจะใช้หนี้ได้อย่างไร ตอนนี้เงิน 10,000 บาท ได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 ปีเห็นว่าเงิน 10,000 บาทจะมาแล้ว

พิชัย รับเตรียมแจกเงินหมื่นให้ผู้สูงวัย
เรื่องนี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินหมื่นในเร็ว ๆ นี้ว่า ในเฟสที่หนึ่งให้เป็นเงินสดเพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง หลังจากนั้น เรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนไม่เยอะ และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง แต่มีปัญหาสภาพคล่อง ดังนั้นเราจะคัดคนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

ยืนยันว่า จะไม่ทับซ้อนกับกลุ่มเปราะบางในเฟสแรก เพราะต้องอยู่ในรายชื่อที่เรากำหนดไว้ เชื่อว่า ใช้งบประมาณไม่มาก เพราะจำนวนคนไม่เยอะ ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตนั้น มีความจำเป็น เพราะนอกจากการเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ยังมีประโยชน์อีก 2 อย่างคือ 1.ให้ประชาชนมีช่องทางการติดต่อภาครัฐได้อย่างถาวรในอนาคต 2.ให้ประชาชนคุ้นเคยกับการใช้เงินดิจิทัลฯ และโทรศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกฯ ถก 19 พ.ย. ดันแจกเงินหมื่นเฟส 2
ส่วนความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หรือ โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก จะมีการหารือเรื่องการแก้หนี้ รายย่อยและแนวทางผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า รูปแบบการโครงการดิจิทัล เฟส 2 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนเงินที่แจก จะจ่ายแบบก้อน 10,000 บาท หรือ ทยอยจ่ายครั้งละ 5,000 บาท หรือแจกวันไหน จะมีความชัดเจน หลังการประชุมวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะตั้งคณะอนุกรรมการฯ ขึ้นมาขับเคลื่อน และพิจารณารายละเอียด รวมทั้งเสนอให้คณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณาเห็นชอบโดยเร็วต่อไป ยืนยันว่า เราเดินหน้าแจกแน่นอน

ส่วนโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับคนพิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟสแรกยังไม่สิ้นสุด โดยกระทรวงการคลังเตรียมโอนเงินซ้ำให้กับผู้ได้รับสิทธิ์ แต่โอนเงินไม่สำเร็จ ครั้งที่ 2 จำนวนกว่า 380,000 คน ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้