กัญจนาช่วยไถ่พลายนพเก้า เจ้าของช้างให้สาบานเลิกลากซุง

View icon 199
วันที่ 12 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กัญจนา ศิลปอาชา ช่วยไถ่พลายนพเก้า เจ้าของช้างให้สาบานเลิกอาชีพรับจ้างลากซุงเด็ดขาด เผยไถ่เพราะสงสาร นำไปฝากเลี้ยงไม่เคยทิ้งขว้าง แต่ไถ่ทุกเชือกที่สงสารไม่ไหว พร้อมอัปเดตบัญชีกันยารำลึก ยอดบริจาคทะลุ 3.2 ล้าน ช่วยช้างสู้โรคเฮอร์ปีส์

วันนี้ (12 พ.ย.67) กัญจนา ศิลปอาชา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการไถ่ช้างพลายนพเก้า จากเจ้าของที่ประกอบอาชีพรับจ้างลากซุง ว่า ก่อนหน้านี้ ได้ไถ่พลายบัวทอง ช้างลากไม้ เพราะขาของพลายบัวทองเริ่มมีปัญหา ดิฉันอยากให้เขาได้พัก ซึ่งเจ้าของพลายบัวทอง มีช้างอีกเชือกหนึ่งชื่อพลายนพเก้า ตอนนั้นเจ้าของยังไม่เลิกอาชีพ รับจ้างลากซุง แต่ตอนนี้เจ้าของต้องการเลิกอาชีพนี้โดยเด็ดขาด จึงจะขายพลายนพเก้า เนื่องจากเจ้าของช้าง สุขภาพไม่ดีแล้ว และเมื่อเขาต้องการเลิกอาชีพนี้จริ งๆ ดิฉันจึงตัดสินใจซื้อพลายนพเก้า

“พลายนพเก้าอายุยังน้อย จริง ๆ อายุน้องยังไม่ถึงอายุลากซุงด้วย เมื่อก่อนเจ้าของก็ไม่ทราบกฎหมายเรื่องนี้ พลายนพเก้าจะออกเดินทางมาเชียงใหม่เร็ว ๆ นี้ ตอนนี้รอเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย และเจ้าของช้างจะมาส่งพลายนพเก้าเอง เพื่อให้คำมั่นสาบานกับดิฉันว่า เลิกอาชีพนี้เด็ดขาด ไม่ใช่จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อช้างใหม่”

กัญจนา ศิลปอาชา ระบุด้วย การไถ่ช้างแต่ละเชือกนั้น ดิฉันมีเหตุผล ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากความสงสารเป็นพื้นฐาน ไม่ไถ่เพราะความน่ารักสวยงามของช้าง แต่ดิฉันก็ไม่สามารถไถ่ช้างทุกเชือกที่สงสารได้ มันไม่ไหว  แล้วก็ไม่ใช่หน้าที่ด้วย อีกทั้งดิฉันมีความรับผิดชอบต่อสถานที่ ต่อบุคคลที่ดิฉันเอาช้างไปฝากเลี้ยง  ไม่ใช่เอาไปฝากแล้วทิ้งขว้าง พลายนพเก้าก็จะไปที่ร่มแดนช้าง ซึ่งดิฉันก็เกรงใจมาก แม่ ๆ โปรดเห็นใจดิฉันด้วย เรื่องการไถ่ไม่มีปัญหา แต่การไปฝากเลี้ยง มันก็ลำบากใจอยู่มาก และอย่าพูดว่าให้ดิฉันเปิดปางเอง ไม่เคยอยู่ในความคิด ดิฉันไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวกับช้าง ไม่เคยมีรายได้จากช้าง ต้องขอบคุณ คุณภัทร เจ้าของภัทรฟาร์มช้าง ที่จะรับช่วยดูแลพลายนพเก้าอีกเชือก ดิฉันทำเท่าที่ทำได้ เต็มความสามารถแล้ว

กัญจนา ศิลปอาชา ยังได้อัปเดตยอดเงินในบัญชี “กองทุนกันยารำลึก” ยอดที่ได้ล่าสุดคือ 3,260,105.70 มันเยอะมาก ๆ เลย ซึ่งเงินจำนวนนี้ เป็นของดิฉันเพียง 1 ล้านบาท ที่เหลือเป็นของแม่ ๆ พ่อ ๆ ของกันยา โดยจะขอให้ หมอต้อม ทวีโภค (คชบาล) หมอบิ๊ก ฉัตรโชติ ( รองคณบดีคณะสัตวแพทย์ มช.) หมอแอ้ม ( ม. เกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเขตกำแพงแสน) ช่วยกรุณาเป็นแกนกลางประสานทำโครงการวิจัยเพื่อหาทางต่อสู้กับโรค EEHV รวมทั้งหาวัคซีนป้องกัน เพื่อไม่ให้เราต้องสูญเสียลูกช้างไปเพราะโรคนี้อีก โดยขอให้คุณหมอทำโครงการเสนอมา เพราะทราบว่าหมอมีโครงการอยู่แต่การขอเงินจากภาครัฐยุ่งยากมาก

เงินกองทุนนี้ จะถูกบริหารจัดการอย่างโปร่งใส เดิมทีอยากให้กองทุนนี้อยู่กับ  คชบาลฯ  แต่หมอบอกว่ายุ่งยากในการเบิกจ่ายขอให้ดิฉันเปิดบัญชีเอง ดิฉันจึงจำต้องเปิดบัญชีเองทั้งที่ไม่อยากทำ และเมื่อเปิดเป็นกองทุน จำต้องมีมูลนิธิกำกับ เป็นกองทุนลอย ๆ ไม่ได้ ดิฉันจึงต้องอาศัยมูลนิธิบรรหารแจ่มใส (เพราะไม่รู้จะใช้มูลนิธิอะไรอื่นที่สะดวกรวดเร็ว) ให้กองทุนอยู่ภายใต้มูลนิธิบรรหารแจ่มใส ตามกฏหมาย แต่จะทำบัญชีแยกชัดเจนของกองทุนแยกจากของมูลนิธิ  รายรับ รายจ่าย ไม่เกี่ยวกัน สิ้นปีก็รายงานงบการเงินกับสรรพากรตามกฏหมาย  ขอขอบพระคุณ แม่ ๆ พ่อ ๆ ของน้องกันยาทุกท่าน ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน และให้น้องกันยามาอนุโมทนาสาธุด้วยนะลูก ทุกคนทำเพื่อหนูและเผ่าพันธุ์ของหนู กันยาผู้เป็นที่รักยิ่ง