ชายเมากร่าง! ปรี่ตบหน้าศพเพื่อน ที่ผูกคอตายใต้ต้นไม้

View icon 266
วันที่ 7 พ.ย. 2567
ข่าวในประเทศ
แชร์
ชายเมากร่าง! ปรี่ตบหน้าศพเพื่อน ที่ผูกคอใต้ต้นไม้ในป่า หลังเครียดตกงาน-ถูกเมียทิ้ง ด้านเจ้าหน้าที่เตือนระวังนอนคุกไม่รู้ตัว ฐานทำลายวัตถุพยานหลักฐาน

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (6 พ.ย. 67) เกิดเหตุชายวัยกลางคน ที่อยู่ในอาการมึนเมา บุกเข้าไปในที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตผูกคอใต้ต้นไม้ ในป่ากระถิน พื้นที่หมู่ 11 ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อนปรี่เข้าไปใช้ฝ่ามือตบใบหน้าผู้เสียชีวิต จนมีเพื่อนคนงานเข้ามาห้ามและดึงตัวออกมา

แต่ชายคนดังกล่าว ยังไม่หยุด ได้ใช้มือดึงขยุ้มผมผู้เสียชีวิต พร้อมสบทคำด่าหยาบคาย จนอาสากู้ภัยฯ และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต้องตะโกนเตือนให้ออกห่าง เกรงว่าจะไปทำลายวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี และแพทย์นิติเวช อยู่ระหว่างเดินทางมาตรวจสอบ

จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.หญิง พนิดา จุลภักดิ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเดชา อายุ 56 ปี ชาว อ.ปุทมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ

ด้านนายประสาน อายุ 45 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตที่มาพบศพ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ นายเดชา เคยทำงานในร้านขายของฝากใกล้กับที่เกิดเหตุ ปัจจุบันได้ออกจากงานและตกงานมานานประมาณ 1 ปี เนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้ง ล่าสุด ได้ถูกภรรยาทิ้งหนีกลับบ้านญาติ ซึ่งนายเดชา พยายามออกตามหา และมักจะบ่นกับเพื่อน ๆ ว่า เครียดกับมรสุมชีวิต

ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้เดินออกมาจากที่ทำงาน ผ่านมาทางป่ากระถิน เพื่อกลับห้องพัก และมาพบผ้าห่มแขวนกับต้นไม้ และเห็นร่างคน นั่งหันหลังแหงนหน้าขึ้นฟ้า คิดว่ามาหายิงนก แต่แน่นิ่งไม่ไหวติง จึงเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ ถึงกลับผงะเมื่อรู้ว่าเป็น 
นายเดชา เพื่อนสนิท ได้ผูกคอเสียชีวิตแล้ว ก่อนรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ส่วนชายกร่าง ที่บุกเข้ามาก่อเหตุใช้มือตบหน้าศพ เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานและเพื่อนในวงเหล้า ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา โดยคืนที่ผ่านมา ได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายเดชา ในวงเหล้า ก่อนจะแยกย้ายกันกลับที่พัก จนมารู้ว่าเพื่อนผูกคอเสียชีวิต จึงเกิดอารมณ์โมโห ยั้งสติไม่อยู่ปรี่เข้าตบหน้าศพเพื่อน

อย่างก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เตือนว่า การเข้าไปในที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้รับอนุญาตุหรือไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง อาจส่งผลทำให้มีความผิดถูกจับกุมได้ ฐานยุ่งเหยิงทำลายวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ