วราวุธ ขออย่านำ “เกาะกูด” มาเป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ยันเป็นพื้นที่ไทย ไม่มีความขัดแย้ง เชื่อรัฐบาลไม่ยอมให้เสียเปรียบ
วันนี้ (5 พ.ย.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงประเด็นบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา (MOU44) เกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ว่า ขอให้สบายใจ เพราะตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ กัมพูชาและไทย ไม่ได้มีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับเกาะกูดเลย เพราะกัมพูชาไม่ได้มีความสนใจในพื้นที่ตรงนี้ตั้งแต่แรก และเส้นเขตแดนนั้น ไม่มีเกาะกูดเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายวราวุธ ยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อขัดแย้ง แต่เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงต้องมีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (JTC) เกิดขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการปรึกษาหารือกันโดยตลอด แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มาสู่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงทำให้ต้องมีการตั้งเจทีซีของไทยขึ้นมาใหม่ ขณะที่ เจทีซีกัมพูชายังมีอยู่
สุดท้าย ตนเองขอฝากประชาชนว่า อย่าเอาประเด็นการเมืองมาสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เพราะเป็นคนละประเด็นกัน การทำงานระหว่างไทยและกัมพูชา เป็นการพูดคุย และหารือ เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมโดยเร็วที่สุด ไม่ได้มีความขัดแย้ง และที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของเกาะกูดแต่อย่างใด ย้ำว่า เกาะกูดยังเป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดตราดของไทย ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
จากนี้ไป จะเป็นขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตั้งเจทีซีของไทย เพื่อไปหารือกับกัมพูชาต่อไป ในเรื่องทรัพยากรที่อยู่ใต้พื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping Claims Area : OCA) ย้ำว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเกาะกูด เนื่องจากพื้นที่โอซีเอ ยังจะต้องมีการเจรจากันต่อ ยืนยันว่า เราจะไม่มีการเสียเปรียบกัมพูชา และไม่เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบของใครทั้งนั้น ซี่งการที่สองประเทศมีความคิดต่างกัน จึงจำเป็นต้องมาพูดคุยกับนโต๊ะ โดยรัฐบาลดำเนินการเต็มที่ และจะไม่ให้เสียผลประโยชน์ของประเทศไทย
