ยันจากปากพยานระดับวิสดอม ขายสินค้าได้จริง ไม่มีจัดฉาก ทนายขอนำพยานสอบเพิ่ม

View icon 1
วันที่ 4 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
20 พยานดิไอคอนกรุ๊ป ให้ปากคำดีเอสไอ พยานระดับวิสดอม ยันไม่มีจัดฉาก ขายสินค้าได้จริง ได้เที่ยวหลายประเทศตามโปรโมชันบริษัท ด้านทนายขอนำพยานสอบเพิ่ม

วันนี้ (4 พ.ย.67) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้าของบริษัทฯ

โดย น.ส.มลญ่า (หนึ่งในพยาน) กล่าวว่า ตนเป็นดีลเลอร์ขายสินค้าของบริษัทฯ มาประมาณ 4 ปีแล้ว เปิดบิลครั้งแรกประมาณ 50,000 บาท และปัจจุบันยังคงขายสินค้าของบริษัทฯ อยู่ จนตอนนี้อยู่ในระดับตัวแทนวิสดอม มีโอกาสได้ไปเที่ยวตามโปรโมชันกับทางบริษัทหลายประเทศ กรณีของตนก็มีผู้ที่มาทำธุรกิจร่วมมากกว่า 100 คนแล้ว วันนี้จึงเดินทางมาเป็นพยานกับตัวแทนอีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ โดยส่วนตัวเคยได้รับความดูแลเป็นอย่างดีกับทางบริษัทฯ และบริษัทมีเมตตาถ่ายทอดวิชาการทำธุรกิจแบบออนไลน์ให้กับตนเองจนสามารถต่อยอดในหลายด้าน นำไปแบ่งปันความรู้ให้กับคนได้อีกจำนวนมาก

น.ส.มลญ่า กล่าวอีกว่า สินค้าของตนสามารถขายได้ตลอดทุกวัน ขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งลูกค้ามีทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง ซึ่งครั้งแรกที่เข้าบริษัทฯ จะเน้นให้ทดลองใช้สินค้าก่อนและเรียนรู้ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ หากเราไม่รู้จริงจะไม่สามารถบอกต่อกับสมาชิกได้ โดยช่วงโควิด-19 ธุรกิจส่วนตัวเกิดผลกระทบ แต่การขายออนไลน์ของดิไอคอนกรุ๊ปช่วยพยุงให้ธุรกิจของตนเองกลับมาเดินต่อได้ ส่วนผลตอบแทนจากการขายสินค้าขึ้นอยู่กับความขยันและเวลาในการขายสินค้า ถ้ามีเวลาเยอะผลตอบแทนก็จะเยอะตามไปด้วย และขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจแต่ละเดือนของลูกค้าด้วย โดยตนไม่มีพื้นที่เก็บสินค้าก็จะขออนุญาตบริษัทฯ ช่วยฝากเก็บสินค้าและจะขอเบิกเมื่อลูกค้าสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ จึงไม่สามารถกำหนดยอดรายได้แต่ละเดือนได้ สำหรับลักษณะการขายสินค้าของตน ก็จะเป็นการไปเจอกับลูกค้า และแนะนำสินค้าต่าง ๆ ให้ ถนัดขายออฟไลน์มากกว่า เนื่องจากได้เจอลูกค้า และเน้นแนะนำปากต่อปาก

น.ส.มลญ่า กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องมีผู้เสียหายจำนวนมาก ตนขอแสดงความเสียใจกับทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อน แต่เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิด หลังเป็นคดีความเกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบ ส่วนตัวต้องขออภัยลูกค้าในสมาชิกตน แต่ยืนยันสินค้ามี อย.ถูกต้องตามกฎหมาย จึงอยากให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ต่อ เพราะบางคนกลัวก็จะนำสินค้ามาคืน ตนไม่มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งผู้สูงอายุลูกหลานก็อยากหยุดใช้แต่วัยรุ่นยังใช้ปกติ อย่างไรก็ตาม บอสดาราก็เคยมีการมาสอนขายของออนไลน์ผ่าน tiktok บ้างเพื่อเพิ่มหลากหลายในช่องทางขายสินค้า ยืนยันไม่ได้จัดฉากเพราะตนเองก็มีครอบครัว และไม่คุ้มกับความเสี่ยงในอนาคต

ด้าน นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้พาพยานกว่า 20 คน ในฝั่งของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป มาให้การในชั้นพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ โดยมาให้การตามข้อเท็จจริง ซึ่งมีพยานที่ยืนยันตนแล้วประมาณพันกว่าคน แต่มีในรายชื่ออยู่ที่ 2,400 คน และมีการติดต่อประสานงานเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยตนเองมั่นใจในข้อเท็จจริง และเชื่อว่าพยานจะให้การตามความเป็นจริง จึงไม่ได้หนักใจอะไร หลังจากนี้จะปรึกษากับดีเอสไอว่า สามารถขยายกำลังการสอบสวนได้มากเพียงใด รวมถึงจะสามารถส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำพยานในพื้นที่ต่างจังหวัด และต่างประเทศได้หรือไม่ หากทำได้ ตนก็มีแผนเดินสายพบปะพยานทั้งประเทศ เพื่อให้เข้าปากคำกับดีเอสไอในฐานะพยาน

นายวิฑูรย์ เผยว่า เบื้องต้น จากการประเมินมีตัวแทนกว่า 10,000 - 15,000 คน แต่จะสามารถดึงพยานเข้าให้ปากคำได้มากเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบ เชื่อว่าดีเอสจะรับฟังหรือสอบเพิ่ม เพราะงานจะหนักในช่วงสอบสวน แต่ในชั้นอัยการและชั้นศาลจะได้ง่าย หากตัดพยานเหลือเพียง 50 คน ตนก็จะไปร้องขอความเป็นธรรม และแจ้งข้อกล่าวหา ม.157 สุดท้ายคดีก็จะไม่ไปไหน และอัยการก็จะตีสำนวนกลับอยู่ดี ซึ่งเราจะต้องใช้สิทธิ์พยานทุกปากในฝั่งผู้ถูกกล่าวหา เพราะหมื่นกว่าคน ถ้าไม่เคยมาให้การ ก็อาจจะวุ่นวาย และสร้างภาระให้กับอัยการ และศาล จึงมองว่าควรให้จบในชั้นสอบสวน

ส่วนความกังวลว่าจะจำกัดอิสระภาพของกลุ่มผู้ต้องหานานขึ้นหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่า ฝั่งตนเองเสียหายและยังต้องขังอยู่  แต่การสู้คดีเราเสียหายตอนนี้จะสบายในระยะยาว ดีกว่าสบายในวันนี้ แต่ในชั้นศาลมีปัญหา

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอควรจะรับฟังพยานหลักฐานของฝั่งเราบ้าง เพราะพยานที่มาในวันนี้ เป็นพยานที่ทำธุรกิจจริง และยังมีพยานอีกกลุ่ม คือ พยานโรงงานที่ผลิต ที่จะให้ปากคำว่าได้ส่งสินค้าให้บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจริง และกลุ่มที่เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจ และกฎหมาย อยู่ระหว่างการประสานเข้าเป็นพยาน คาดว่าน่าจะได้ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ รวมถึงขอให้กำหนดประเด็นพฤติการณ์ของผู้เสียหายแต่ละคน เพื่อให้ผู้ต้องหาสามารถชี้แจงในแต่ละประเด็นได้