รวบ 2 แม่ลูก ข่มขู่ลูกสาวนักการเมืองชื่อดัง สูญกว่า 6 แสน

View icon 1
วันที่ 1 พ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์รวบ 2 แม่ลูก เครือข่ายแอบอ้าง DSI ข่มขู่ลูกสาวนักการเมืองชื่อดัง สูญกว่า 6 แสน

ตามที่ปรากฎข่าวนักการเมืองชื่อดัง กล่าวถึงกรณีที่บุตรสาวคนโต โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รีดเงินกว่า 6 แสนบาท ว่ามีบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI โทรข่มขู่บุตรสาว แจ้งว่ามีคดีความและอย่านำเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง และบอกว่ามีหนทางในการช่วยเหลือโดยให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือคดี และให้พูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์

โดยบุตรสาวได้โอนเงินครั้งแรก 56,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการเปิดวีดีโอคอลพูดคุย บอกถึงคดีความว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็ได้ให้โอนเงินครั้งที่ 2 บุตรสาวก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกกับตนว่าต้องจ่ายค่าเทอม ซึ่งตนได้ให้บุตรสาวส่งใบเสร็จการจ่ายค่าเทอมมา เพราะความจริงจะต้องจ่ายเดือนมกราคม แต่เนื่องจากบุตรสาวเป็นคนตั้งใจเรียน และไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีในด้านการเงิน ตนก็ได้โอนเงินชำระค่าเทอมผ่านไปยังบุตรสาว

หลังจากนั้นบุตรสาวก็ได้โอนเงินต่อไปไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านบัญชีม้า 100,000 บาท 2 ครั้ง รวม 200,000 บาท หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ได้กล่อมให้บุตรสาวกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้คุณพ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็คเมล์รูปที่วิดิโอคอลกันไว้ บุตรสาวจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่คุณยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท

การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำต่อเด็ก และเป็นบุตรของบุคคลสาธารณะในสังคม และใช้วาทะในการข่มขู่นักศึกษาเหล่านี้ ว่าถ้าไม่กระทำตามคุณพ่อคุณแม่จะเสียชื่อเสียงและจะนำรูปที่มีส่งให้มหาวิทยาลัย ทำให้เด็กเกิดความกลัว

เจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดจนทราบว่าเจ้าของบัญชีคือ นางสุภาพ และ น.ส.สุนิษา ซึ่งเป็นแม่ลูกกัน พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่า ได้รับจ้างเปิดบัญชีจากนายหน้าชาวจีน และได้ข้ามไปสแกนหน้าฝั่งประเทศกัมพูชา โดยช่องทางธรรมชาติ ฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงจับกุมตัวในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคนอื่นโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด" นำตัวส่ง สภ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง