เช้านี้ที่หมอชิต - มาที่อีกคน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไม่รู้กลับมารักกันแล้ว หรือ จะยังแค้นฝังลึกกับ ทนายตั้ม กันแน่
เพราะถ้าจำกันได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ (23 ต.ค.) ทั้งคู่เพิ่งจะจับมือ จูบปากหย่าศึก 6 ปี ด้วยเหตุผลปัจจุบันมีคดีที่ทำร้ายประชาชนจำนวนมาก จึงบอกให้เราเลิกทะเลาะกัน เพื่อมาช่วยทำงานด้านสังคม
แต่การเคลื่อนไหวรอบนี้ของ นายอัจฉริยะ ที่ต้องบอกว่า ขออนุญาต ทนายตั้ม มาแล้วด้วย ก็ยังสร้างความเป็นงง เพราะหลังมีข้อมูล ทนายตั้ม มีคดีพรากผู้เยาว์ นายอัจฉริยะ ก็มาคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องจริง โดยบอกว่า ช่วงนั้น ทนายตั้ม ยังใช้ชื่อเดิม นายณัฐวุฒิ เบี้ยวบังเกิด และพวกอีก 3 คน ไปพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นลูกสาวตำรวจ ก่อนทั้งหมดถูกออกหมายจับ แต่ "ทนายตั้ม" เข้ามอบตัว ต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ประกอบกับมีการออกกฎหมายล้างมลทิน นำมาสู่การลบประวัติคดี ก่อนที่ปี 2547 "ทนายตั้ม" ก็สอบได้ใบอนุญาต หรือ ตั๋วทนาย แล้วเป็นทนายความได้
ส่วนปมฉ้อโกงเงินลูกความ 71 ล้านบาท, ประเด็นรถหรู รวมทั้งเงิน 39 ล้านบาท นายอัจฉริยะ มองว่า เป็นเรื่องคดีความ ไม่ขอพูดถึง เพราะเหมือนซ้ำเติมกัน แต่ "ทนายตั้ม" ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ต้องไปสู้คดีพิสูจน์ตัวเอง
ทนายตั้ม ไปเปิดศึกกับนักการเมือง คุณณธรรมนัส พรหมเผ่า, บิ๊กตำรวจ พลตำรรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์, อดีตบิ๊กตำรวจ พลตำรรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล, พลตำรรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา และสื่อมวลชนอาวุโส คุณสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นทำไปเพื่ออะไร รับงานใครมาโจมตีหรือไม่
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า หลังจากนี้ ตนเชื่อว่า ทนายตั้ม น่าจะโดนออกหมายจับในระยะเวลาอันใกล้ ในคดีเกี่ยวกับฉ้อโกง ซึ่งตนได้พูดให้กำลังใจทนายคนนั้นเพียงแค่ว่า อาจจะได้เข้าไปอยู่กับ บอสพอล ในเรือนจำ
