วันนี้ (29 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน ภายใน ซ.15 คลองแห-คูเต่า เขตเทศบาลเมืองคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น อยู่ติดกัน 2 หลัง ซึ่งไฟได้ลุกไหม้ภายในห้องโถงของบ้านทั้ง 2 หลัง และเปลวไฟลุกลามขึ้นไปชั้น 2 ควันตลบอบอวน ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านได้เข้าไปช่วยกันสาดน้ำดับไฟเท่าที่พอจะทำได้ แต่ก็เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองคลองแห และ เทศบาลนครหาดใหญ่ มาช่วยดับไฟ เพราะกลัวว่าจะลุกลามไปยังบ้านที่อยู่ติดกันอีกหลายหลัง
ต่อมารถดับเพลิงสามารถฉีดน้ำดับไฟบ้านที่เกิดเพลิงไหม้ทั้ง 2 หลัง เอาไว้ได้ทัน โดยไม่ลุกลามไหม้หมดทั้ง 2 หลัง แต่ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะในห้องโถงกลางบ้านถูกไฟไหม้เสียหายเกือบหมด หลังเหตุการณ์ไฟไหม้สงบลงตำรวจสายตรวจคลองแห สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์
จากการสอบสวนเจ้าของบ้านทั้ง 2 หลัง ทราบว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจเผาบ้านของตัวเองทั้ง 2 หลัง โดยคนที่จุดไฟเผาเป็นชายอายุ 66 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน พิการขาซ้ายถูกตัดตั้งแต่หัวเข่า เพราะ ป่วยเป็นเบาหวาน และยังเอะอะโวยวาย จนตำรวจต้องคุมตัวเอาไว้ เพื่อให้สงบสติอารมณ์ ก่อนชายคนดังกล่าวจะบอกว่า ที่จุดไฟเผาบ้านตัวเองเพราะไม่อยากอยู่แล้ว ตอนแรกจะฆ่าตัวตายก่อน โดยให้ไฟฟ้าชอร์ต โดยใช้สายไฟกระติกน้ำร้อนมาตัดให้ลวดทองแทงโผล่ออกมา แล้วก็เสียบปลั๊กเอาลวดทองแดงมาจี้ที่ตัว แต่ปรากฏว่าระบบไฟฟ้าในบ้านตัด ไฟจึงไม่ชอร์ต และไม่ตายตามที่ตั้งใจ จากนั้นจึงเอาไฟแช็กมาจุดไฟเผาบ้านทั้ง 2 หลัง โดยคิดไว้ว่าจะขอตายในกองไฟ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเพื่อนบ้านได้ช่วยพาตัวออกจากบ้าน และช่วยกันดับไฟ
ส่วนสาเหตุที่คิดสั้นครั้งนี้ เพราะเบื่อชีวิต เบื่อคนในครอบครัว ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยามาจนแก่เฒ่า ดีกันได้ไม่เกิน 5 วัน ก็ทะเลาะเป็นแบบนี้กันมาตลอด ส่วนกับลูก ๆ ก็คุยไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่เหมือนกัน ล่าสุดเมื่อวานนี้ ตนก็เพิ่งทะเลาะกับภรรยา ด้วยความโมโหจึงพูดกับภรรยาว่า จะเผาบ้านให้หมด และภรรยาก็ท้าทายกลับว่า ถ้าแน่จริงก็เผาเลย วันนี้ก็เลยลงมือทำตามที่ภรรยาท้าไว้
เบื้องต้นตำรวจสายตรวจคลองแห ได้ช่วยกันคุยให้กำลังใจผู้ก่อเหตุ ให้ใจเย็น อย่าทำแบบนี้อีก และพยายามคุยให้ทุกคนในครอบครัวพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพื่อไม่ให้น้อยใจคิดฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง และเผาบ้านอีก
