เช้านี้ที่หมอชิต - ต้องบอกว่าเป็นข่าวฉาว และส่อเค้าจะบานปลาย หลังผู้เสียหายแฉเมียอดีตบิ๊กตำรวจแอบมีสัมพันธ์สวาทกับสามี ลักทรัพย์ ทอง และเงิน 5.7 ล้านบาท วานนี้ผู้ถูกกล่าวหา เข้าพบตำรวจแล้ว
ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ปฏิเสธลักทรัพย์
ภรรยาของอดีตนายตำรวจ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง หลังถูกศาลฯ ออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน และร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน
ตามที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ผู้ต้องหาแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามี บุกรุกเข้าไปในคอนโดมิเนียม ย่านสุขุมวิท 101 ลักทรัพย์สิน ทอง และเงินสดไป รวมมูลค่ากว่า 5.7 ล้านบาท
ในระหว่างที่สื่อมวลชนรุมล้อม กล้องของช่างภาพก็ไปถูกหน้าของผู้ต้องหา
หลังสอบปากคำไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ทนายความของผู้ต้องหาเปิดเผยสั้น ๆ ว่าปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริง ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว รวมถึงประเด็นเรื่องกุญแจห้องพักด้วยว่าได้มาอย่างไร
จนช่วงเวลาเกือบ 19.00 น. ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว วิ่งหลบกองทัพสื่อมวลชนขึ้นรถออกจาก สน.พระโขนง ไป
ผู้กำกับการ สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาจะมามอบตัว ตำรวจก็ต้องจับกุมตามหมายจับ ส่วนการประกันตัวเป็นสิทธิของผู้ต้องหา คดีนี้อัตราโทษ 1-7 ปี ตำรวจเลือกปฏิบัติไม่ได้ ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะไปถึงบุคคลใด
ผู้เสียหาย ยันเดินหน้าชน ภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ
ผู้เสียหายเปิดใจกับทีมข่าว 7 HD บอกว่า ถุงสีรุ้งที่อยู่ในภาพ ตามที่เพจฯ ดังมาแฉผ่านโซเชียล เธอเห็นแล้วว่าข้างในคืออะไร ก่อนจะเป็นข่าว (23 ต.ค.) มีบุคคลที่ 3 ติดต่อมาเจรจา พอไปถึงสถานีตำรวจ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นออกหมายจับ
ต่อให้อีกฝั่งนำทรัพย์สินที่ขโมยไปมาคืนก็ไม่จบ เพราะเป็นคดีอาญาแล้ว ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย เธอก็เซ็นเป็นพยานให้ตำรวจไปแล้ว
วันนี้ (25 ต.ค.) ผู้เสียหายจะนำหลักฐานเส้นทางการเงินอดีตบิ๊กตำรวจและภรรยา ที่เป็นใบเสร็จการสั่งซื้อสินค้า ทองคำ และเฟอร์นิเจอร์ ระหว่างปี 2564-2566
โดยเฉพาะ วันที่ 5 มกราคม 2564 เพียงวันเดียวสั่งซื้อทองคำน้ำหนักรวม 70 บาท รวม 5 คำสั่งซื้อ ออเดอร์ละ 1,920,800 บาท ไปมอบให้ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง
ผบ.ตร.เผยปมฉาว เป็นเรื่องส่วนตัว
ขณะที่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ไม่ขอแสดงความเห็นกรณี เมียอดีตบิ๊กตำรวจถูกแจ้งจับ เพราะเป็นความผิดส่วนบุคคล ส่วนกรณีตำรวจ ที่ไปเล่นมีหญิงอื่น ต้องถูกพิจารณาโทษวินัย ยอมรับว่าข่าวฉาวที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนเอือมระอา
ขอบคุณภาพจาก : Facebook เจ๊ม้อย v+
