จับสิบโทหลอกเหยื่อสาวให้รักก่อนลักทรัพย์ถ่ายคลิปกรรโชกทรัพย์

View icon 93
วันที่ 22 ต.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จับสิบโท หนีราชการ ไปหลอกเหยื่อสาวที่พบกันผ่านแอปหาคู่ หลังเหยื่อสาวหลงรัก จึงลักทรัพย์ ถ่ายคลิป ไว้ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ สารภาพ ทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ จะนำไปลงทุนเทรดหุ้น Forex หลังใช้เงินตัวเองที่ไปกู้เงินจากธนาคารไปลงทุนแล้ว แต่ขาดทุนไปประมาณ 1 ล้านบาท จึงทำให้เข้าสู่วงการอาชญากร

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่หน้า กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเหนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรถพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี รวมกันแถลงข่าวผลการจับกุม สิบโทฟิล์ม อายุ 22 ปี ชาว อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ทหารบกหนีราชการ สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ที่ 36/2567 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ในข้อหา” ลักทรัพย์ และกรรโชกทรัพย์” พร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง 1 คัน โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของ น.ส.หนึ่ง (นามสมมุติ)อายุ 25 ปี ผู้เสียหายชาว จ.อุดรธานี ที่ถูกผู้ต้องหาลักเอาไปจากห้องพัก ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยจับกุมตัวได้ในหอพักแห่งหนึ่งในตัว อ.เมือง จ.สกลนคร ขณะนั่งกำลังนั่งแช็ตกับเหยื่อหญิงสาวรายใหม่ในแอปหาคู่ และรายอื่นๆ ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี

พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.หนึ่ง ผู้เสียหายชาว จ.อุดรธานี  เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูก  สิบโทฟิล์ม ที่รู้จักกันผ่านทางแอปหาคู่ ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 ก่อนแชทคุยกันผ่านทาง Instagram เนื่องจากผู้ต้องหามีอาชีพที่มั่นคง หลังจากนั้น สิบโทฟิล์ม ได้ขอผู้เสียหายมาพักในหอพักใน จ.อุดรธานี กระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ออกไปทำงาน ผู้ต้องหาได้ขโมยรถยนต์เก๋ง และโน๊ตบุ๊ก หลบหนีไป เมื่อผู้เสียหายติดต่อไป ก็ถูกข่มขู่ว่าจะลบข้อมูลสำคัญในโน๊ตบุ๊กออก หากไม่โอนเงินให้

ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารอยู่ในสังกัดแห่งหนึ่งจริง แต่ถูกต้นสังกัดได้จำหน่ายว่าหนีราชการ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2567 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จึงยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 24 เข้าจับกุมตัว และพบข้อมูลมีเหยื่อสาวอายุระหว่าง 20-30 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในแผนประทุษกรรมที่คล้ายกันมากว่า 10 คดี ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี และยองพบว่ามีหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 21 ที่ 80/2567 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ใรข้อหา “ยักยอก” อีกด้วย

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุพบว่า ผู้ต้องหาใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่ Omi และTinder ในการหาเหยื่อ และพบว่าบัญชีเฟซบุ๊กที่ล็อกอินไว้ในเครื่องอีก 8 บัญชี ที่ไว้ใช้หลอกเหยื่อ เพื่อกรรโชกทรัพย์หลังจากคบหากัน เพื่อรีดเอาทรัพย์ หรือกรรโชกทรัพย์จากเหยื่อ โดยที่บ้านพักผู้ต้องหาได้แอบติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องนอนภายในบ้านพัก แล้วสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม ที่เปิดไว้หลายบัญชี ทักไปหาเหยื่อและคนรู้จักเหยื่อ และส่งคลิปข่มขู่เอาเงินจากเหยื่อ

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ จะนำไปลงทุนเทรดหุ้น Forex (ทองคำ) หลังไปกู้เงินจากธนาคารไปลงทุนแล้วขาดทุนไปประมาณ 1 ล้านบาท จึงทำให้เข้าสู่วงการอาชญากร ตระเวนหลอกเหยื่อสาวไปเรื่อยๆ เพื่อนำเงินไปลงทุนเทรดหุ้นทองคำต่อ ก่อนจะมาถูกตำรวจติตามจับกุมตัวพร้อมของกลางที่หลอกเหยื่อมาใช้ หากมีผู้ใดได้รับความเสียหายจากคนร้ายในลักษณะเดียวกัน สามารถประสานข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม ซึ่งถือว่าเป็นภัยต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะหญิงสาว ทาง กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี จะได้รวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง