สนามข่าว 7 สี - พี่สาวรับมรดกจากน้องชายที่เสียชีวิต เป็นสุนัขพันธุ์บางแก้ว เลี้ยงดูมาเกือบปี ก็ไม่เชื่อง ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งถูกกัดแขนเหวอะ แผลเก่ายังสด ๆ อยู่ มาเมื่อวานนี้ถูกกัดที่มืออีก
เจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วย นางกวันรัตน์ อายุ 69 ปี ที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ก็ไม่กล้า เพราะมี "เจ้าชีต้า" สุนัขพันธุ์บางแก้ว เพศผู้ สีดำ อายุ 6 ปี คอยประกบ และส่งเสียงเห่าอยู่ตลอดเวลา ทำได้แค่พูดคุยผ่านประตูรั้ว เพื่อถามไถ่อาการเท่านั้น
สืบเนื่องจาก หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดนครหลวง รับแจ้งจากชาวบ้านให้ไปนำตัว นางกวันรัตน์ ที่ถูกสุนัขกัด ออกมาจากบ้าน หมู่ 6 อำเภอนครหลวง เพื่อพาไปรักษา แต่พอไปถึงก็เป็นอย่างที่เห็น "เจ้าชีต้า" แสดงเจตจำนงชัดเจนว่า หวงอาณาเขต พร้อมกระโจนใส่ได้ทุกเมื่อ แม้ที่คอจะมีเชือกล่ามไว้ก็ตาม
เข้าไปก็ไม่ได้ นางกวันรัตน์จะออกมา ก็ไม่ได้อีก เป็นแบบนี้มากว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายจึงตัดสินใจประสานไปที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ให้ส่งเจ้าหน้าที่มายิงยาสลบ ซึ่งก็ไม่ง่าย
เจ้าหน้าที่ต้องปีนรั้วข้างกำแพงบ้าน และรอจังหวะอยู่นาน เพราะดูเหมือน "เจ้าชีต้า" จะรู้ตัว พยายามวิ่งไปหลบไปอยู่ใต้แคร่ และมีบางจังหวะที่พยายามใช้เท้าหน้าตะกายประตูบ้าน เพื่อหนีเข้าไปซ่อนตัว แต่ก็ไม่พ้นฝีมือของเจ้าหน้าที่ หลังยิงลูกดอกใส่ "เจ้าชีต้า" ไม่นาน เสียงเห่าเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงคราง ก่อนที่มันจะสิ้นฤทธิ์
นางกวันรัตน์ ที่ออกมาในสภาพมีผ้าพันแผล พันรอบแขนทั้ง 2 ข้าง แผลนี้ถูกกัดเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ส่วนมือซ้ายที่บวมจากรอยเขี้ยว นี่คือแผลใหม่
เจ้าตัวยังมีสีหน้าวิตก เป็นห่วง "เจ้าชีต้า" เพราะเป็นสุนัขที่น้องชายนำมาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก นิสัยน่ารัก ขี้เล่น ไม่เคยแสดงอาการก้าวร้าว กระทั่งมันอายุได้ 5 ปี น้องชายก็เสียชีวิต ตัวเองจึงรับช่วงต่อ เลี้ยงดูมาเกือบ 1 ปี นิสัยเริ่มเปลี่ยน เลี้ยงไม่เชื่อง หวงของ และดุร้ายขึ้นทุกวัน
เจ้าหน้าที่ประเมินแล้วว่า หากยังปล่อยให้นางกวันรัตน์เลี้ยงดู "เจ้าชีต้า" ต่อไป คงโดนกัดอีก จึงเจรจาขอให้ไปอยู่ในความดูแลของสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเป็นการชั่วคราว โดยจะให้เจ้าหน้าที่ฝึก และพยายามปรับนิสัยดูก่อน
