องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ที่จังหวัดลำพูน

View icon 99
วันที่ 18 ต.ค. 2567
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลเหมืองง่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานสำหรับเด็กไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลเหมืองง่า และตำบลอุโมงค์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ ภายในถุงยังชีพพระราชทาน ประกอบด้วย ขนม ตุ๊กตา ผ้าเช็ดตัว และสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการดูแลเด็กวัยตั้งแต่ศูนย์ ถึง 2 ขวบ ซึ่งจากเหตุอุทกภัยมีเด็กที่ครอบครัวได้รับผลกระทบ 100 คน ใน 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลเหมืองง่า, อุโมงค์, หนองช้างคืน, ประตูป่า, ริมปิง และต้นธง

จากนั้น เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมือง ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งภาพรวมสถานการณ์น้ำในปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังคงเหลือน้ำท่วมขังตามที่ลุ่มต่ำ แต่เนื่องจากมีฝนตกกระจายในพื้นที่อาจทำให้การระบายน้ำลดลงช้ากว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากมีน้ำจากทางเหนือ คือ อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ระบายลงพื้นที่ต่อเนื่อง แนวทางแก้ไขโดยยังคงต้องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ และเพิ่มเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ไม่สามารถระบายน้ำได้เอง ซึ่งขอให้ท้องถิ่น และชาวบ้าน ช่วยดำเนินการ ส่วนพื้นที่น้ำท่วมขังได้จัดมอบ EM บอล เพื่อบรรเทาน้ำเน่าเสีย ด้านสุขอนามัยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขออกให้บริการตรวจรักษาโรค โดยเฉพาะโรคผิวหนัง ส่วนโบราณสถานที่ได้รับความเสียหาย ร่วมกับกรมศิลปากร เข้าตรวจสอบ ดูแล ประเมินความเสียหาย เพื่อทำการบูรณะ

ในการนี้ เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ประชาชนจังหวัดลำพูนที่ประสบอุทกภัย พร้อมเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรและเจ้าหน้าที่ได้รับทราบ

จากนั้น ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย 3 ครอบครัว โดยเป็นผู้ป่วยพิการซ้ำซ้อนและมีโรคประจำตัว ได้รับความเดือดร้อนบ้านเรือนเสียหาย ขาดแคลนสิ่งของอุปโภคบริโภคส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน

จังหวัดลำพูน ได้รับอิทธิพลจาก "พายุซูลิก" และหย่อมความกดอากาศต่ำส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง มีผู้ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ 40 ตำบล 269 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 6,749 ครัวเรือน โดยอำเภอเมืองมีประชาชนได้รับผลกระทบ 15 ตำบล 122 หมู่บ้าน 8 ชุมชน 3,946 ครัวเรือน หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดำเนินการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนให้ระชาชน โดยนำเครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เข้าไปสูบน้ำและผลักดันน้ำในพื้นที่ รวมทั้งทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง