ทนายตั้ม บุกสภา บี้ปลด สามารถ พ้น กมธ.ทุกคณะ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทนายตั้ม บุกสภาฯ ยื่นหลักฐานคลิปเสียงให้ประธานรัฐสภา เพื่อให้ปลดนายสามารถ ออกจาก กมธ.ทุกคณะ หลังทำผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป

ทนายตั้ม บุกสภา บี้ปลด สามารถ พ้น กมธ.ทุกคณะ
ที่รัฐสภา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนทนายความ​ ยื่นหนังสือหลักฐานคลิปเสียงจำนวน 2 คลิป และเอกสารถอดเทป ถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา​ เพื่อขอให้ตรวจสอบนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)​ อยู่ในกรรมาธิการ (กมธ.) อนุกมธ. และกมธ.วิสามัญ คณะไหนบ้าง

หากพบมีพฤติกรรมการกระทำความผิด ขอให้ปลดออกจาก กมธ.ทุกคณะ เพราะการกระทำแบบนี้เหมือนเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ซึ่งผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง ไม่สมควรอยู่ต่อเพราะทำให้รัฐสภาไทยเกิดความเสื่อมเสีย หลังปรากฏมีเสียงคล้ายกับคนในคลิปเรียกรับผลประโยชน์​ผู้บริหารดิไอคอน​ กรุ๊ป

นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาฯ เป็นผู้มารับหนังสือแทน​ กล่าวว่า​ ​ประธานรัฐสภา​ได้สั่งให้ประธานกมธ.ทุกคณะ​ ตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในกมธ.ทุกตำแหน่ง เพื่อไม่ให้ใช้ตำแหน่งดังกล่าวไปหลอกลวงพี่น้องประชาชน และหากยังพบว่ามีประเด็นดังกล่าว คนที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ คือ​ ประธานกมธ. และหลังจากนี้ก็จะตรวจสอบเรื่องการใช้ตำแหน่งหน้าที่​โดยมิชอบอย่างเข้มข้นต่อไป​

บิ๊กป้อม สั่งปลด สามารถ พ้นรองโฆษก พปชร.
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. นำตัวกลุ่มผู้ต้องหาของดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 17 คน มายื่นขอฝากขังต่อศาลอาญาและส่งตัวไปฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพและทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งคาดว่า พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.จะมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มขึ้นอีก และอาจจะมีการสอบสวนพาดพิงไปถึงบุคคลในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะมีการพุ่งเป้าไปในเรื่องของคลิปเสียงของชายคนหนึ่งที่คุยกับ บอสพอล ว่าอาจจะเป็นบุคคลที่อยู่ในพรรค

ดังนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยในการดำเนินงานของพรรค ในฐานะเลขาธิการพรรค จึงเสนอ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ออกคำสั่งให้นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พ้นจากการดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สามารถ ไม่ยอมลาออก-พปชร.จ่อใช้มติขับพ้นพรรค
นายไพบูลย์ ระบุด้วยว่า พยายามให้คนใกล้ชิดไปพูดคุยกับนายสามารถแล้ว แต่นายสามารถ ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อถามว่าพรรคจะขับออกหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าการขับออกจากพรรคตามข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้มติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่จะมีการประชุมกันวันที่ 29 ตุลาคมนี้
นายไพบูลย์ ระบุด้วยว่า จะติดตามความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีดิไอคอน กรุ๊ป ของพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.อย่างใกล้ชิดว่ามีความคืบหน้าเป็นประการใด เพื่อเสนอรายงานและความเห็นต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 29 ตุลาคมเช่นกัน

เปิดผลสอบคลิปเสียง ยืนยันเป็นการเมือง ส.จริง
มีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า สอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เมื่อคืนที่ผ่านมา กรณีคลิปเสียง 2 คลิปฉาว ที่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ นั้น มีรายงานว่า บอสพอล ยอมรับว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปเสียงคือนักการเมือง ส. ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง ส่วนเรื่องคลิปเสียงเทวดานั้น บอสพอลยอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองกำลังสนทนากับลูกน้อง เพื่อเปรียบเปรยการจะทำธุรกิจที่จะต้องมีเครื่องเซ่นเทวดา ธุรกิจถึงจะราบรื่น ไม่สะดุด หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเสนอเรื่องไปยัง พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร และ พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการต่อไป