สนามข่าว 7 สี - มีคดีที่ลูกค้าสาวว่าจ้างให้คนขับรถแกร็บ ไปรับพาไปส่งบ้าน โดยที่เธอไม่รู้ว่าคนขับหูหนวก แล้วเข้าใจผิด กลัวจะถูกพาไปทำมิดีมิร้ายเลยเข้าแจ้งความ เมื่อวานทั้งสองฝ่ายก็ไปไกล่เกลี่ยกัน แต่คำถามคือ คนขับที่หูหนวก จริง ๆ แล้วขับรถได้ไหม คุณพิธพงษ์ จตุรพิธพร จะพาเราลงสนามไปหาคำตอบนี้กัน
เพราะไม่คุ้นชินเส้นทาง เลยเข้ารถเลนผิด ต้องเสียเวลาไปวนรถ แต่กลับทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด คิดว่าขับวนรอบศูนย์วัฒนธรรมถึง 2 รอบ กลัวจะพาไปทำมิดีมิร้าย จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี คนขับแกร็บซึ่งเป็นใบ้ จึงนัดขอไกล่เกลี่ย ขอความเห็นใจถอนแจ้งความ
1 ชั่วโมงต่อมาได้ข้อสรุปว่า ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ยอมรับว่าเข้าใจผิดไม่รู้ว่าคนขับเป็นผู้พิการ แต่คนขับยังต้องถูกดำเนินคดีข้อหาใช้รถผิดประเภท ปรับ 2,000 บาท และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
แม้ว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี แต่คำถามที่ตามมาก็ชวนให้สงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าคนขับที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน สามารถขับรถได้หรือไม่
ข้อมูลจาก มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ลงบทความว่า กรณีที่เป็นผู้พิการทางหู เช่น หูตึง หูหนวก ใส่เครื่องช่วยได้ยิน หรือผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมแล้ว ต้องใช้ใบรับรองแพทย์สำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชำนาญการรักษาเฉพาะโรครับรอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจว่าสามารถออกใบขับขี่ให้ได้หรือไม่
ขณะที่ บริษัท แกร็บ ที่เป็นผู้ให้บริการเอง รณรงค์แคมเปญ เปิดโอกาสให้คนหูหนวก ขับรถให้บริการได้ หากคน ๆ นั้น มีใบอนุญาตขับขี่ ได้รับการรับรองจากแพทย์ว่าสามารถขับรถได้ ก็จะได้รับโอกาสนี้
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คนขับแกร็บที่หูหนวก บอกว่า หลังจากนี้จะไปแก้ไขข้อมูลในแอปพลิเคชัน และติดสติกเกอร์ เพื่อบอกให้ลูกค้ารู้ว่า ตนเองพิการทางการได้ยิน
