วันนี้ (10 ต.ค. 67) มาตรการปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกตรวจสอบเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน 2 ปี ซึ่งตอกย้ำถึงความเสี่ยงสำหรับข้าราชการ และอาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่มีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
คณะกรรมการกลางตรวจสอบวินัย (CCDI) เปิดเผยในวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า เฉิน เสี่ยวป๋อ รองหัวหน้าหน่วยงานเฝ้าระวังการรับสินบนประจำมณฑลไห่หนาน กำลังถูกสอบสวนในข้อหาที่เกี่ยวกับ "การละเมิดอย่างร้ายแรง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การสอบสวนครั้งนี้ทำให้จำนวนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐที่ตกเป็นเป้าของมาตรการปราบปรามการทุจริตของปธน.สีนับตั้งแต่เดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 46 คน ซึ่งสูงกว่าจำนวนของปีก่อนหน้าที่ 45 คน ขณะที่ยังเหลือเวลาอีกกว่า 2 เดือนก่อนจะถึงสิ้นปี
รายงานระบุว่า การสอบสวนเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นี้แสดงให้ว่าการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตของปธน.สีนั้นมีความเข้มข้นมากขึ้น โดยปธน.สีใช้มาตรการเหล่านี้เพื่อควบคุมระเบียบวินัยภายในพรรคคอมมิวนิสต์และกำจัดคู่แข่งทางการเมืองนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2555 อีกทั้ง เมื่อช่วงต้นปี ปธน.สียังให้คำมั่นว่า จะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ ในการต่อสู้กับการคอร์รัปชันในภาคส่วนสำคัญ ๆ เช่น การเงิน พลังงาน เวชภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐาน
