พบศพ ชายอายุ 51 ปี จมน้ำปริศนา คลองร่องสวนกล้วยรกร้าง ญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

View icon 450
วันที่ 9 ต.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (9 ต.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตร. สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในคลองสวนกล้วยรกร้าง ชุมชนแห่งหนึ่ง จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุพบอยู่ภายในชุมชนแห่งหนึ่ง ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะทางเดินเลียบสันเขื่อนรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้อาสาสมัครต้องเดินแบกอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง และ อุปกรณ์เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตไปตามทางเดินริมสันเขื่อนกว่า 1 กม. และเมื่อถึงทางเข้าสถานที่เกิดเหตุตรงด้านหน้าทางเข้าจะมีศาลพระภูมิตั้งอยู่แล้วเป็นลักษณะป่าหญ้ารกทึบด้านในจะเป็นสวนกล้วยที่เหมือนจะปล่อยทิ้งร้าง อาสาสมัครต้องนำอุปกรณ์ส่องแสงสว่างเดินเท้าฝ่าป่าหญ้ารกทึบเข้าไปติดตั้งไฟส่องสว่างด้วยความทุลักทุเลเพราะด้านในเป็นดินเลนและเป็นป่าหญ้ารกทึบและภายในจุดเกิดเหตุมีปริมาณน้ำฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องด้วย

เมื่ออาสาสมัครเดินฝ่าป่าหญ้ารกทึบเข้าไปด้านในจนถึงสวนกล้วยซึ่งห่างจากทางเข้าถึง 50 เมตร จึงได้พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ภายในคลองร่องสวน โดยที่ร่างท่อนบนโผล่พ้นเหนือน้ำในลักษณะนอนหงายหน้า ส่วนใบหน้าครึ่งหนึ่งได้หายไป และที่บริเวณลำคอมีร่องรอยของสัตว์เลื้อยคลานกัดแทะ ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ นายวัชรชัย อายุ 51 ปี 

ต่อมาอาสาสมัครได้เก็บกู้ร่างของ นายวัชรชัย ขึ้นมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตร. และแพทย์นิติเวชตรวจสอบ จึงพบว่าผู้เสียชีวิตสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีขาว สวมใส่กางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า ตรวจสอบภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต ไม่พบเอกสารระบุตัวตนติดตัว และไม่พบทรัพย์สิน หรือของมีค่าใดๆทั้งสิ้น พบบาดแผลขนาดใหญ่ที่ใบหน้า และลำคอ ซึ่งเป็นลักษณะบาดแผลของสัตว์เลื้อยคลานกัดแทะ ที่ร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลใด ๆ

และจากการสอบถาม นายวุฒิชัย อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นน้องชายของตนพักอยู่ด้วยกัน ไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนหน้านี้ป่วยเป็นวัณโรค ตอนนี้หายแล้ว แต่จะเป็นคนไม่มีแรง ไม่เดินไปไหนไกล จะแค่นั่งกินเหล้ากับเพื่อนแถวบ้านแล้วก็เข้าบ้าน

แต่เมื่อคืนวันเสาร์ก็นั่งกินปกติ และเข้าบ้านนอนประมาณ 2-3 ทุ่ม และเช้า ตี 4 ก็ลุกออกไป และก็หายไปเลย ไม่เห็นกลับเข้าบ้านมาอีกเลย ที่ตนรู้ก็เพราะมีเพื่อนบ้านมาบอกว่าเจอศพ ตอนแรกตนนึกว่าริมเขื่อน เดินหาไปเดินหามา จนมาเจอ อยู่ในสวน ซึ่งมันไกลมากจากบ้าน เพราะปกติ ไม่เคยเดินมาไกลขนาดนี้ืตนจึงสงสัยสาเหตุการตาย 

น.ส.นภัส อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า มีคนมาบอกว่ามีคนเจอศพ ให้ไปดูว่าใช่ลุงตนใช่หรือไม่ ตนจึงเดินมาดู พอมาถึงก็เห็นชาวบ้านยืนคุยกันอยู่ตนจึงเข้าไปถามว่าเจอศพตรงไหน ชาวบ้านก็ชี้มาที่นี่ตนจึงเข้ามาดูเห็นกู้ภัยเห็นตำรวจอยู่กันแล้ว ซึ่งตอนแรกก็ไม่แน่ใจแต่เมื่อพอเห็นรอยสัก ตนจึงจำได้ว่าใช่ลุงของตนแน่ ๆ ตนเจอกับลุงครั้งสุดท้ายบนบ้านเมื่อวันเสาร์ช่วงเย็น ๆ ก่อนที่ลุงจะหายไป แต่ลุงจะเป็นคนชอบกินเหล้า เลยไม่ค่อยจะมีแรงเดิน และตนคิดว่าลุงไม่น่าจะเดินมาที่นี่เองได้ ลุงมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียว ตั้งแต่ที่รู้มา เพราะจะนั่งกินด้วยกันประจำ ตนจึงติดใจสาเหตุการตายของลุง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตร. และแพทย์นิติเวช ได้ทำการตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตแล้วภายในที่เกิดเหตุ พบว่าเนื้อที่ใบหน้าหายไปครึ่งนึง น่าจะเกิดจากสัตว์เลื้อยคลานเข้ามากัดแทะ ส่วนที่ลำคอของผู้เสียชีวิตก็จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีรอยของสัตว์เลื้อยคลานกัดแทะเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังสรุปไม่ได้ต้องรอผลจากการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการที่ผู้เสียชีวิตมาถึงตรงนี้ได้อย่างไรนั้นต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบและบริเวณใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ส่วนทางญาติกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าตนสงสัยในสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ตาย และยังสงสัยว่าเงินที่ผู้ตายพกติดตัวเอาไว้นั้นมันหายไปไหน แล้วยังมีบัตรประชาชนที่ผู้ตายพกติดตัวอยู่เป็นประจำก็หายไปด้วย ตรงนี้ตนก็สงสัยอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องประเด็นสำคัญคือผู้ตายเดินมาได้อย่างไรถึงตรงนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่เดินไม่ค่อยแข็งแรงจึงไม่เชื่อว่าจะเดินมาเองได้ ต้องมีคนพามาอย่างแน่นอน ส่วนทางด้านแพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่ตร. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะมอบให้ญาตินำร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป