สองตาหลานโลภ เก็บกระเป๋าได้ไม่ยอมคืน เจ้าของเช็กพิกัดพาตร.รวบตัว

View icon 318
วันที่ 7 ต.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สองตาหลานโลภ เห็นกระเป๋าตก มีเงินเป็นปึกกับไอโฟน รีบเก็บแล้วขี่ จยย.หลบหนี ผู้เสียหายเช็คพิกัดแจ้ง ตร.รวบตัวได้ทันควัน

(7 ตุลาคม 2567) พ.ต.ท.ก้องภพ อาษานอก สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนางจันทร์ฉาย ขวัญแก้ว อายุ 51 ปี ว่า มีคนขโมยกระเป๋าเงินไป โดยในกระเป๋ามีเงินสด ประมาณ 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง จำคนเอาไปได้ มาด้วยกัน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง-ดำ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ110 พร้อมระบุหมายเลขทะเบียนได้แม่น  ซึ่งผู้เสียหายติดตามจีพีเอสโทรศัพท์ได้ ระบุพิกัดว่า คนร้ายนำโทรศัพท์และกระเป๋าเงินขับรถมุ่งหน้าไปตามถนน สายพิมาย-ชุมพวง เข้าไปในเขตตัวเมืองพิมาย จึงแจ้งให้ตำรวจชุด 191  ตร.จราจร และชุดสืบสวน สภ.พิมาย ช่วยออกติดตาม

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฯ ได้ไปยังพิกัดที่รับแจ้ง พบว่า คนร้าย นำโทรศัพท์มาให้ร้านทำการเปลี่ยนซิมให้ แต่ทางร้านไม่รับเปลี่ยน พร้อมให้เบาะแสว่า ขี่รถมุ่งหน้าไปทางเข้าวัดบูรพาพิมล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามและสกัดรถไว้ได้ ก่อนแสดงตนเข้าจับกุม

โดยคนร้าย คือ นายกิตติ อายุ 25 ปี และ นายสุภรณ์ อายุ 67 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นตากับหลาน

จากการสอบถาม นายสุภรณ์ บอกว่า กำลังจะเดินทางออกจากบ้าน โดยให้หลานชายเป็นคนขี่รถพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลพิมาย พอมาถึงระหว่างทาง มองเห็นกระเป๋าสะพายวางอยู่ข้างถนน จึงให้หลานชายจอดรถ แล้วลงมาเก็บเอาไปตรวจดู ก็พบว่า ภายในกระเป๋ามีเงินสดอยู่ 9,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องและมีบัตรประชาชนของเจ้าของกระเป๋าอยู่ด้วย จึงรีบเก็บซ่อนเอาไว้ ระหว่างนั้นไม่นาน เจ้าของกระเป๋าก็ตามมาถึง และได้สอบถามว่าได้เก็บกระเป๋าไว้หรือไม่ แต่ตนปฏิเสธ

จากนั้น ได้รีบไปโรงพยาบาล และทำการเอาเงิน โทรศัพท์ออก แล้วเอากระเป๋าไปทิ้งถังขยะในโรงพยาบาล ก่อนจะออกไปตระเวนหาเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ จนมาถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งนายสุภรณ์ รับสารภาพว่า เห็นเงินจำนวนมากจึงอยากได้เป็นของตน

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองราย ไปที่ สภ.พิมาย สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป

ด้านนางจันทร์ฉาย ผู้เสียหาย บอกว่า ตนกำลังจะเดินทางเข้ามาตลาดในหมู่บ้านหนองจิก เอากระเป๋าสะพายวางไว้หน้ารถจักรยานยนต์ แต่ไม่ทราบว่ากระเป๋าหล่นตรงจุดไหน มารู้ตัวตอนที่มาถึงตลาด จะหยิบเอากระเป๋าแต่ไม่เห็น คาดว่า น่าจะตกหล่นระหว่างทาง จึงรีบขับรถกลับออกมาตามหา จนมาพบกับสองตาหลานคู่นี้ ซึ่งตนได้สอบถามไปแล้วว่า เห็นกระเป๋าสะพายของตนหรือไม่ แต่ทั้งคู่บอกว่าไม่เห็น ซึ่งตนไม่ปักใจเชื่อ  เพราะเห็นตาหลานรีบขับรถมุ่งหน้าเข้ามาในตัวเมืองพิมาย ตนจึงรีบเช็คจีพีเอสของโทรศัพท์จนรู้พิกัดของคนร้าย

จากนั้น จึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สกัดจับ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็สามารถสกัดจับไว้ได้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิมาย ที่ติดตามจับกุมไว้ได้อย่างรวดเร็ว ได้เงินน้ำพักน้ำแรงจากขายของกลับมาคืนทั้งหมด .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง