รวบ สันติ อดีตนักมวยดังหลบหนีหมายจับ

View icon 75
วันที่ 7 ต.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จับแล้ว "สันติ" อดีตนักมวยดัง ขณะหนีกบดานพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังก่อเหตุหนีหมายจับ บุกบ้านจับตัวประกัน ซอยอินทามระ 29

รวบ สันติ อดีตนักมวยดังหลบหนีหมายจับ
นี่เป็นภาพขณะตำรวจวิ่งไล่ตามจับตัว นายสันติ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ หลังนั่งรถแท็กซี่ผ่านจุดตรวจจุดสกัดพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่ นายสันติ ได้วิ่งลงจากรถหลบหนี ระหว่างนั้นเกิดสะดุดล้มได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นในตัวพบปืน จำนวน 2 กระบอก

พันตำรวจโท ทัศนัย นคราวนกุล รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.โพธิ์กลาง เปิดเผยถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า ขณะนั้นกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณบ้านโคกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีรถแท็กซี่ ขับผ่านมาจึงทำการเรียกตรวจ พบผู้โดยสารนั่งด้านหลัง 1 คน จึงขอตรวจค้น ขณะพูดคุยกับคนขับ ผู้โดยสารได้ลงจากรถแล้ววิ่งหนี ตำรวจจึงวิ่งจับกุมตัวเอาไว้ได้ สอบถามชื่อ-นามสกุล พบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ สน.เตาปูน จึงควบคุมตัวไว้    

ย้อนไทม์ไลน์ ก่อน สันติ จนมุม
สำหรับไทม์ไลน์การหลบหนี ภายหลังจากก่อเหตุ ชุดสืบสวนได้แกะรอยติดตามพบว่า หลังจากก่อเหตุยิงปะทะกับทางเจ้าหน้าที่ ช่วงเวลาประมาณ 19.00-22.00 น. ของวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทางถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนที่จะไปหาเพื่อนของภรรยา ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 28 เพื่อไปเอาเงินจำนวน 27,000 บาท ที่ฝากไว้ก่อนหน้านี้

ต่อมาเวลา 01.15 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2567 นายสันติ เข้าไปในซอยรัชดาภิเษก 7 โดยเรียกวินจักรยานยนต์เพื่อให้ไปส่งที่ย่านรามคำแหง 53 ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเท้าหลบหนี แต่ทางตำรวจสืบทราบข้อมูลว่า นายสันติ จะมีการหลบหนีไปยังจังหวัดทางภาคอีสาน ชุดสืบสวนจึงได้ประสานกับทาง สภ.โพธิ์กลาง เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัดจนสามารถจับกุมตัวได้

เปิดใจโชเฟอร์แท็กซี่
ด้าน โชเฟอร์แท็กซี่ ที่ นายสันติ เรียกใช้บริการ เปิดเผยว่า นายสันติ เรียกแท็กซี่ประมาณ 10.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่บริเวณสถานีแก็สเอ็นจีวี ย่านรังสิต โดย นายสันติ อ้างว่า ภรรยากำลังคลอดลูก ต้องเดินทางไปเยี่ยมที่จังหวัดยโสธร โดยฝ่าย นายสันติ เสนอค่าโดยสารแบบเหมา 8,000 บาท ระหว่างทาง นายสันติ พูดจาไพเราะ ไม่มีท่าทีพิรุธ ตนถามว่าทำงานอะไร นายสันติ บอกว่าทำงานอิสระ และตนก็ไม่ได้ถามต่อ  

กระทั่งขับมาถึงช่วงเขื่อนลำตะคอง นายสันติ ก็ได้ขอเอนเบาะเพื่อพักสายตา พร้อมบอกว่า "เสพยาบ้ามา ถ้าพบด่านให้ตนบอกด้วย" หลังจากนั้นตนก็ขับจะเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ก็พบด่านความมั่งคงตำรวจได้ขอตรวจปัสสาวะ ตนซึ่งเป็นคนขับ ก็ได้ลงไปตรวจหาสารเสพติด ขณะที่ยืนรอที่จุดหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ของตรวจค้นผู้โดยสาร ตนได้ยืนเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนเห็น นายสันติ วิ่งหลบหนี โดยมีเจ้าหน้าไล่ยิง นายสันติ ยอมรับว่ายังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุม สันติ สอบเข้ม
ล่าสุดช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจคุมตัว นายสันติ มาถึง สน.บางซื่อ เพื่อทำการสอบสวนแล้ว ระหว่างมาถึง กองทัพนักข่าวพยายามตะโกนถามว่า ตั้งใจจะยิงสู้ตำรวจเลยหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ

พบประวัติลักทรัพย์โชกโชน 5 จังหวัด
ด้าน พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา พร้อมเปิดเผยประวัติสุดโชกโชนของ นายสันติ รวมถึงไล่เรียงไทม์ไลน์นับตั้งแต่วันที่เข้าล้อมจับ นายสันติ ตั้งแต่ 5 วันก่อน จากการสอบปากคำ นายสันติ รับสารภาพทั้งหมด และยอมรับว่าเสพยาเสพติด และต้องการหาทรัพย์สินจากการลักทรัพย์ ส่วนตัวภรรยาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวางแผนหนี แต่เสพยาทั้งคู่ และเป็นการหนีเพียงลำพังไม่มีใครพาหนี โดยอาศัยจากประสบการณ์ที่เคยติดคุกและออกมา และต้องการลักทรัพย์ไปเรื่อย ๆ เพื่อหลบหนี ส่วนอาวุธปืน 2 กระบอก ก็ขโมยมาเช่นกัน 

การยิงสวนตำรวจ นายสันติ อ้างว่าเป็นการยิงเปิดทางเพื่อหนีเท่านั้น ส่วนที่เข้าไปที่บ้านของตัวประกันอ้างว่าแค่หิวน้ำเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจับตัวประกัน ตรวจสอบประวัติ นายสันติ พบว่า ก่อเหตุลักทรัพย์โชกโชนหลายคดีตั้งแต่ปี 2566-2567 ทั้งในพื้นที่ จังหวัดมหาสารคาม นครราชสีมา ขอนแก่น สระบุรี และ กรุงเทพมหานคร เหตุผลคือติดยา หลังตรวจห้องพักพบทรัพย์สิน ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม สร้อยคอทองคำ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะตามหาว่านำไปจำนำที่ไหนบ้าง เพื่อนำทรัยพ์สินคืนผู้เสียหาย

เบื้องต้นถูกแจ้ง 6 ข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, มีอาวุปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครองครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมูบ้าน หรือ ที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุเร่งด่วน, ยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือ ชุมชน และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน