จ๊ะ นงผณี แสดงความบริสุทธิ์ใจ ปัดเอี่ยว แม่ตั๊ก ไลฟ์ขายทอง

View icon 92
วันที่ 7 ต.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จ๊ะ นงผณี มหาดไทย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เดินทางเข้าพบพนักงาน บก.ปคบ. ให้ข้อมูลแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมไลฟ์ขายของกับ "แม่ตั๊ก กรกนก และ ป๋าเบียร์"

จ๊ะ นงผณี เปิดเผยว่า นำเอกสารการเงินของบริษัทมาชี้แจง เพราะกระบวนการทุกอย่างผ่านทางบริษัท ดังนั้นยืนยันไม่มีความกังวลใจใด ๆ

ทุกกรณีที่รับงานตนเองก็ได้ตรวจสอบเลขที่ อย. เลขจดแจ้ง ใบรับรองบริษัท ใบอนุญาตการเปิดร้านทองต่าง ๆ ก่อนรับงานเสมอ ซึ่งตามเอกสารตอนนั้นก็ดูน่าเชื่อถือ จึงรับงาน มีทั้งไลฟ์ขายโกโก้ โปรตีน และครีมกันแดด และมีทั้งไลฟ์เอง แชร์โพสต์ และแสดงคอนเสิร์ต

ส่วนไลฟ์ร้านทองนั้น เคยถูกจ้างให้ไปแสดงความยินดีวันเปิดร้านทองเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ราคา 1 แสน 5 หมื่นบาท ไม่มีการขายทอง และวันนั้น ตนเองเห็นว่าเขาแจกของให้ชาวบ้านจริง จึงไลฟ์การันตีให้เขา ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นเช่นนี้ ซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกไม่ดี ที่เป็นส่วนหนึ่งในการไปการันตี สร้างความน่าเชื่อถือให้อีกฝ่าย จนทำให้ประชาชนเชื่อเขามากขึ้น แต่ยืนยันว่าตนเองไม่เคยร่วมธุรกิจกับเขา ไม่รู้เบื้องหลังลึก ๆ ไม่ได้สนิทหรือใช้เวลาร่วมกันนอกเหนือจากที่จ้างงานเลย

ส่วนโทรศัพท์ที่เขาเคยให้มา ตนเองก็ได้เตรียมนำมามอบให้ตำรวจเป็นของกลางเช่นกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่จำเป็น ซึ่งตนเองก็พร้อมจะส่งมอบให้ตำรวจ

ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ก็จะมีกลุ่มดาราอินฟลูเอนเซอร์ที่เคยร่วมไลฟ์กับแม่ตั๊กทยอยเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจด้วยเช่นกัน เช่น แน็ก ชาลี ไตรรัตน์, แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย พร้อมแม่ลี

สำหรับประเด็นการเข้าให้ปากคำของเหล่าดาราและอินฟลูเอนเซอร์นั้น จะเป็นการให้ข้อมูลและแสดงหลักฐานกรณีที่ไปร่วมไลฟ์ขายของ โดยจะมีทั้งกลุ่มที่ร่วมไลฟ์ขายทอง กับร่วมไลฟ์ขายเครื่องสำอาง สกินแคร์ ซึ่งตำรวจต้องพิจารณาจากหลักฐาน ทำการคัดแยกก่อน

ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มคนสนิทมือซ้ายและมือขวาของแม่ตั๊กนั้น มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เนื่องจากพยานหลักฐานขณะนี้ยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่มีการขอศาลอนุมัติหมายเรียกหรือหมายจับ รวมไปถึงกรณีการอายัดทรัพย์สินต่างๆ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าตำรวจออกหมายจับ หรือดำเนินคดีล่าช้า จนทำให้ ภรรยาหรั่ง หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วนั้น ยังไม่แน่ชัดว่ามีการเดินทางไปจริงหรือไม่ แต่เนื่องจากตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับ ดังนั้นจึงเป็นสิทธิ์ของเจ้าตัวที่ยังสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อยู่ แต่พนักงานสอบสวนก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ยืนยันว่าข้อมูลที่ปรากฎในสื่อโซเชียลมีเดียหรือสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลย และตรวจสอบข้อมูลทุกอย่าง แต่กระบวนการตามกฎหมายก็ต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ดังนั้นหากใครมีข้อมูลก็สามารถนำเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีได้