ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นักมวยคลั่ง นายสันติ และภรรยาที่ชื่อก้อย ที่ก่อเหตุอลหม่านเมื่อคืนนี้จริง ๆ ทั้งคู่เคยพักอาศัยในซอยที่ก่อเหตุมายาวนานถึง 10 กว่าปี แต่ชาวบ้านที่นี่บอกว่า ชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยมานานแล้ว เคยขโมยบัตรเอทีเอ็มของแม่บ้านในคอนโดฯ ที่อาศัยอยู่ไปกดเงินด้วย
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ลงพื้นที่ซอยอินทามระ 29 แยก 3 ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุนายสันติ อดีตนักมวย หนีหมายจับคดีลักทรัพย์นายจ้างหลบหนีเข้าไปในบ้านคุณหมอ และเมียที่ชื่อก้อย ใช้ปืนจ่อหัวตัวเอง ขึ้นรถเก๋งสายตรวจ แล้วบังคับให้ไปส่ง
เมื่อสอบถามชาวบ้านที่นี่ โดยเฉพาะด้านหน้าคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ต้น ๆ ซอยบอกว่าจริง ๆ แล้ว ทั้งนายสันติ หรือที่ชาวบ้านเรียกชื่อเล่นว่า "เอส" และเมียที่ชื่อ "ก้อย" เคยอาศัยอยู่ในคอนโดฯ แห่งนี้มายาวนาน 10 กว่าปี เพิ่งจะย้ายออกไปประมาณ 3-4 ปีที่แล้วนี่เอง โดยตอนที่ทั้งคู่พักอาศัยที่นี่ มีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีเท่าไร
แม่ค้าร้านขายอาหารอีสานท่านนี้บอกว่า แต่ก่อนพ่อแม่ของก้อย และตัวก้อยเอง พักอาศัยที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ก่อน ต่อมาก้อยก็พาสามีคือนายเอส เข้ามาพักอาศัยเพิ่มอีกคน จากนั้นพ่อแม่ของก้อย ซึ่งสถานะตอนนั้นก็คือพ่อตาแม่ยายของเอส เริ่มมาบ่นให้เพื่อน ๆ ในซอยฟังว่า ทั้งตัวลูกสาวคือก้อย และเอส มีนิสัยชอบลักเล็กขโมยของ พ่อแม่ขายของได้ ก็ขโมยเงินไปใช้กันหมด แอบเอาทรัพย์สินมีค่าไปขายไปจำนำ หนักสุด ทั้งเอสและก้อย แอบเอารถของพ่อไปจำนำด้วย ซึ่งคนเป็นพ่อก็ต้องคอยเอาเงินไปตามไถ่ถอนทรัพย์สินต่าง ๆ คืน
กระทั่งเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ผู้เป็นพ่อเสียชีวิต แม่จึงย้ายกลับไปอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งตอนนั้นได้ข่าวว่า ทั้งก้อยและเอส ก็ย้ายไปอยู่อำนาจเจริญด้วย
แต่ช่วงหลังได้ข่าวว่าเอสติดคุก แต่ไม่รู้คดีอะไร กระทั่งเมื่อวันพุธที่ 2 ตุลาคม เห็น 2 ผัวเมียคู่นี้ เข้ามาที่ซอยมาซื้อของกิน เห็นพกปืนมาด้วย และมาก่อเรื่องในที่สุด
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน สอบถามหลาย ๆ คน ถึงพฤติกรรมของ 2 ผัวเมียคู่นี้ กระทั่งไปเจอแม่บ้านของคอนโดฯ ที่ทั้งตัวนายเอส และก้อย อาศัยอยู่ บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฟังว่า เมื่อประมาณสักปี 2563 เธอมาถึงคอนโดฯ แล้วเอากระเป๋ามาแขวนไว้ในห้องแม่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าบัตรเอทีเอ็ม ถูกขโมยไปตอนไหน มารู้อีกทีเพราะมีข้อความแจ้งเตือนว่าได้ถอนเงินออก 50,000 บาท
คาดว่า ผัวเมียคู่นี้ น่าจะแอบจำรหัส เวลาที่เธอฝากพี่ชายไปกดเงินให้ ตอนนั้นไปแจ้งความ ตำรวจไปตรวจสอบวงจรปิดที่หน้าตู้เอทีเอ็ม จึงเห็นว่า ก้อยเป็นคนไปกดเงิน แม่ของก้อยจึงเสนอตัวขอรับผิดชอบ และให้ก้อยผ่อนจ่ายเงินคืนแม่บ้าน เดือนละประมาณ 3,000 บาท
