ระทึก! คนร้ายจับตัวประกัน ยิงสู้ตำรวจ

สนามข่าว 7 สี - เกิดเหตุระทึกกลางกรุง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ ยิงต่อสู้ตำรวจ วิ่งปีนข้ามกำแพงจับตัว นายแพทย์ในบ้านขังไว้ 2 คน ตำรวจอยู่ระหว่างปิดล้อมตามล่าตัว

ระทึก! คนร้ายจับตัวประกัน ยิงสู้ตำรวจ
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเวลา 19.04 น. คืนที่ผ่านมา นายสันติ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาลักทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืนท้องที่ สน.เตาปูน ยิงต่อสู้ตำรวจ

หลังถูกล้อมจับที่บ้านพักวิ่งหนีเข้ามาในซอย จากนั้นนายสันติได้ปีนข้ามกำแพงหนีเข้าไปในบ้านของชาวบ้าน ในซอยอินทามระ 29 แยก 1 พอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว นายสันติ เคาะประตูห้อง ทำมือจุ๊ ๆ ไม่ให้คนที่อยู่ในห้อง ส่งเสียงดัง ซึ่งในบ้านพักหลังนี้ มีผู้ชายอยู่ 2 คน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจับประกันผู้หญิง เธอฉวยจังหวะหนีออกมาก่อนแล้ว

ชุดหนุมาน นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่  ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากในบ้าน มีตัวประกันถูกจับอยู่ และมีเสียงปืนดัง  เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิด

เฮียตี๋ อดีตนายจ้าง เปิดเผยว่านายสันติ (ผู้ต้องหา) เคยเป็นนักมวย มีฉายาว่า "ฤทธิเดช ใหม่เมืองคอน" เลิกชกมวยก็มาเป็นเทรนเนอร์ ที่ค่ายมวยของตนเองแต่อยู่ด้วยกันเพียงแค่ 4 เดือน ตนเองก็ไล่ออก เพราะนายสันติ มีพฤติกรรมเสพยาบ้า และของใช้เด็กที่อยู่ในค่ายมวยก็หายประจำ แต่ผู้ต้องหาไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง

ช่วยตัวประกันปลอดภัย แต่คนร้ายหนีไปได้
ตำรวจปิดล้อมพื้นที่อย่างเข้มข้น จนช่วง (00.24 น.) ตำรวจสามารถช่วยเหลือ ผู้ที่ถูกจับขังในบ้าน ออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั้ง 2 คน เป็นนายแพทย์ เป็นพี่น้องกัน ขณะนั้นตำรวจขอความร่วมมือ ให้นักข่าว ออกจากพื้นที่ งดถ่ายทอดสด และ ขอให้ประชาชน บริเวณที่เกิดเหตุ ปิดประตูหน้าต่างและหลบอยู่ในบ้านพัก "หลีกเลี่ยงการออกมามุงดูที่เกิดเหตุ" เนื่องจากคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ ตำรวจกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่

บิ๊กต่าย สั่งล่าคนร้าย ตามยุทธวิธี
พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันเพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลัง หน่วยอรินทราช เข้ามาร่วมกันระงับเหตุ ใช้โดรนบินสำรวจรอบพื้นที่ ก่อนยืนยันว่าคนร้ายฉวยโอกาส ปีนช่องระบายอากาศ ออกไปทางหลังบ้านหลบหนีไปได้

และในเวลาเดียวกัน (00.30 น.) เกิดเหตุวุ่นวายซ้ำขึ้นอีก เมื่อภรรยาของนายสันติ เกิดอาการเครียดจากเรื่องที่เกิดขึ้นใช้ปืนขู่ยิงตัวเอง บริเวณแยกสุทธิสาร ริมถนนวิภาวดี ใกล้จุดที่นายสันติถูกปิดล้อมไม่ไกลมากนัก ตอนนั้นต้องให้ เฮียตี๋ อดีตนายจ้างของนายสันติ มาช่วยเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง พยายามพูดว่า "ไม่ต้องเครียดคดีนี้ เป็นเรื่องเล็กน้อย ทำอะไรให้คิดถึงลูกเยอะ ๆ หากเป็นอะไรไปแล้ว ลูกจะอยู่อย่างไร" ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง จนอาการของหญิงคนดังกล่าวสงบลง ยอมเดินออกมาอยู่หน้าตึกร้าง หยิบผ้าห่มคลุมหน้าแล้วเดินขึ้นรถตำรวจ  1 นาย

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เธอจะใช้ปืนจี้ตัวเองบังคับตำรวจให้ขับมุ่งหน้าไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลา 03.00 น. พอตำรวจจอดรถ หญิงคนดังกล่าวอาศัยจังหวะเปิดประตูกระโดดลงรถ พร้อมยิงปืน 3 นัด เปิดทางหนีหายไปในทุ่งนา ริมถนนวงแหวนรอบนอกธัญบุรี-วังน้อย เขตอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รอยต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี

ปิดล้อมทุ่งนา ล่าภรรยา นายสันติ
ตำรวจใช้โดรน 2 ลำ ขึ้นบินสำรวจประมาณ 20 ปี ในที่สุดก็พบตัวหญิงคนดังกล่าว ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งนา เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานสองนาน กลัวเธอจะฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายเธอยอมเดินมามอบตัว สภาพเจ็บขา เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถกู้ชีพให้มารับตัวพาส่งโรงพยาบาล ส่วนนายสันติ ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว