จับผู้บุกรุกอุทยานแห่งชาติ ปลูกสับปะรด

View icon 89
วันที่ 3 ต.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กรมอุทยานฯ จับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แผ้วถางเพื่อปลูกสับปะรด ถูกดำเนินคดีและถูกตัดสิทธิ์ทำกิน

วันนี้ (3 ต.ค. 67) นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วานนี้ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ร่วมกันตรวจสอบแปลงที่ดินบริเวณท้องที่บ้านยางชุม หมู่ที่ 5 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

โดยพบว่ามีการบุกรุกแผ้วถางเพื่อเปิดพื้นที่ป่าใหม่เนื้อที่ประมาณ 1.39 ไร่ เพื่อปลูกพืชผลอาสิน โดยพื้นที่บุกรุกพบว่าเพิ่งจะปลูกสับปะรดเต็มพื้นที่ และมีการแผ้วถางป่าเก็บกวาดกิ่งไม้และวัชพืชรวมกองไว้และสุมเผา นอกจากนี้พื้นที่ข้างเคียงที่ติดต่อกับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนั้นเป็นพื้นที่ทำประโยชน์แปลงเดียวกันโดยไม่มีรั้วรอบขอบชิดกั้นอาณาเขตแบ่งแปลงแต่อย่างใด ทั้งนี้พื้นที่ที่บุกรุกได้ปลูกสับปะรดเป็นแปลงเดียวกัน ชั้นอายุเดียวกันปลูกพร้อมกันสภาพดินไถพร้อมกัน และต่อเนื่องกับแปลงที่สำรวจการครอบครองที่ดิน ในชื่อ นายเจียน และเมื่อสอบถามจากราษฎรแปลงข้างเคียงได้ให้ถ้อยคำว่า นายเจียน เป็นผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวเพื่อปลูกสับปะรด

จึงเป็นการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ดังนี้
1. ฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2584 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี 
2. ฐาน “ผู้ใดครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถาง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็น ผู้แผ้วถางป่านั้น” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2584 มาตรา 55
3. ฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรือที่อยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2517 มาตรา 14 และมาตรา 31
4. ฐาน “ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม”ตามมาตรา 19 (1) ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบมาตรา 41
5. ฐาน “เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ตามมาตรา 19 (6) แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบมาตรา 44
6. ฐาน “เข้าไปดำเนินการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ” ตามมาตรา 19 (2) ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบมาตรา 42