ขับรถชนเด็กนักเรียน แถมจอดลงมาต่อว่า “เดินไม่ดูรถมัวแต่เล่นกัน”

View icon 312
วันที่ 30 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เด็กนักเรียนวัย 10 ขวบ เดินกลับบ้านกับเพื่อน ถูกรถชนกระเด็นล้มลง คนขับรถลงมาบ่น “เดินไม่ดูรถมัวแต่เล่นกัน” โชคดีกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ว่า เด็กเดินชิดขอบถนนและไม่ได้เล่นกัน ทางแม่เด็กวอนมารับผิดชอบ

วันนี้ (30 ก.ย. 67) จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอลงเฟสบุ๊ก เป็นคลิปรถเก๋งพุ่งชนเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งอย่างแรง เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น. ในถนนธนุษย์พงษ์ ซอย 2 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งหญิงสาวคนขับรถเก๋งอ้างว่า เด็กนักเรียนเล่นกันแล้วเซมาชนรถเอง และเด็กไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากจึงไม่ได้พาไปโรงพยาบาล ซึ่ง น.ส.เอ ไม่ติดใจและช่วยเหลือเด็กทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ตอนหลังมาทราบข่าวจากลูกน้องของ น.ส.เอ ว่า เด็กคนดังกล่าวต้องเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการจุกหน้าท้องและชาที่ท่อนล่าง และจากการดูกล้องวงจรปิดเรื่องกลับไม่ไปเป็นแบบที่หญิงสาวคนขับรถเก๋ง ทำให้ตนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จึงได้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ เพื่อตามหาคนขับให้มารับผิดชอบน้องนักเรียน

ทาง น.ส.เอ (นามสมมติ) เล่าว่า การชนดูรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีบอก เพราะคนขับน่าจะรู้ตัวว่าชนแรงขนาดนั้น ตอนที่ได้ยินเสียงคือเด็กโดนชนล้มลงไปแล้ว พนักงานที่ร้านของตนก็วิ่งไปดูและช่วยเหลือเด็ก ส่วนคู่กรณีจอดรถห่างไปประมาณ 100 เมตร โดยเด็กบอกเพียงว่าจุก ทางคู่กรณีอ้างว่าเด็กเล่นกันแล้วผลักกันมาโดนรถชน แต่โดนแค่กระจกมองข้างเท่านั้น ซึ่งจากการดูกล้องแล้วไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างของคนขับรถ เพราะชนเข้าอย่างแรงและยืนยันได้ว่า เด็ก 2 คนที่เดินมานั้นไม่ได้เล่นกันอย่างที่คู่กรณีกล่าวอ้าง โดยปกติแล้วซอยนี้จะมีนักเรียนเดินไปเดินมาทุกวัน เพราะในซอยมีโรงเรียนอยู่

ด้าน นางบี (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี  แม่ของเด็กนักเรียนชายที่บาดเจ็บ เล่าว่า ลูกชาย อายุ 10 กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งลูกชานจะใช้ถนนเส้นนี้เดินกลับที่พักพร้อมกับเพื่อน และตนได้สอนลูกเสมอให้เดินชิดขอบถนนให้มากที่สุดเพราะซอยแคบ ซึ่งตอนแรกตนไม่เห็นเหตุการณ์จึงไม่กล้าแจ้งความ แต่ลูกมีอาการจุกท้องและอาการชาที่ท่อนล่างกลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บภายในจึงได้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งโชคดีที่ไม่มีอาการรุนแรง แต่มีอาการพกช้ำภายในโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องและตนได้มาขอบคุณทางร้านที่ช่วยเหลือลูกเบื้องต้นและได้เห็นคลิปพบว่าลูกชายเดินชิดขอบถนนแล้ว แต่รถคันดังกล่าวขับมาชนเหมือนไม่เห็นเด็กเดินอยู่ และทางลูกชายบอกว่า คู่กรณีที่ชนแล้วจอดรถลงมาดูพร้อมกับต่อว่าลูกชายว่า เดินไม่ดูรถมัวแต่เล่นกัน

โดยทาง นางบี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง เพื่อให้คู่กรณีติดต่อมาแสดงความรับผิดชอบรวมถึงเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนชุมชนควรใช้รถด้วยความระมัดระวังและมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทางเพราะขนาดลูกชายตนเองเดินชิดขอบทางแล้วก็ยังถูกรถคู่กรณีขับชน อย่างไรก็ตามหากตำรวจสามารถจับกุมคนขับรถมาได้ ก็พร้อมจะเจรจา