ตำรวจกองปราบบุกจับ 2 เสี่ยกำมะลอ หลอกเด็กเอ็นฯร่วมลงทุน สูญเงินเกือบ 2 แสนบาท

View icon 98
วันที่ 30 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (30 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแขไตร สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปราม แสดงหมายศาลเข้าจับกุม นายสาริน หรือ นัด อายุ 27 ปี ชาว อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 688/2567 ลงวันที่ 27 ก.ย. 67 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

นอกจากนี้ยังได้ ควบคุมตัว นายตั้ม อายุ 44 ปี ชาว จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 676/2567 ลงวันที่ 24 ก.ย. 67 ในข้อหาเดียวกัน ภายหลังทำการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในบ้านพักในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น

ต่อมา พ.ต.อ.ศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นหญิง 2 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ว่ารู้จักชาย 2 คน ทราบชื่อว่าตั้มและนัด มาติดต่อว่าต้องการเด็กเอนเตอร์เทน จนมีการพูดคุยและเกิดความไว้วางใจ แต่ถูกชาย 2 คน ใช้อุบายหลอกว่าจะให้ทุนไปประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องได้รหัส OTP ก่อน จึงจะโอนเงินให้ ด้วยความเชื่อใจจึงให้รหัส OTP ไป แต่สุดท้ายชาย 2 คนไม่ให้เงินลงทุน แต่เป็นการหลอก ได้เงินรวมทั้งสิ้น 189,700 บาท ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า มาแจ้งความเพราะต้องการให้ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมชายทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติออกหมายจับชายทั้ง 2 คนในข้อหาดังกล่าว ซึ่งเมื่อหมายจับออกมา จึงส่งหมายจับประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับกุมตัวทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมชาย 2 คนได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครปฐม และอยู่ระหว่างการส่งตัวมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ในเบื้องต้น นายสาริน รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยมีนายตั้มจ้างให้เปิดบัญชี แล้วก็คอยกดเงินที่เหยื่อโอนมาให้ โดยจะจ่ายค่าจ้างให้ครั้งละ 500-1,000 บาท เมื่อตรวจสอบบัญชีของนายตั้ม ก็พบว่ามีเงินเข้าออกบัญชีวันละ 10,000-20,000 บาท และยังพบว่ามีการหมุนเวียนบัญชีเป็นเงินหลายล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรับตัวแล้วก็จะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะได้ส่งฟ้องฝากขังที่ศาลตามขั้นตอนต่อไป