เอกชนร้องสื่อ ยื่นตรวจสอบการประมูลงานทำความสะอาดในสภาฯ อาจไม่โปร่งใส

View icon 154
วันที่ 30 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
บริษัทเอกชนร้องสื่อ ยื่นตรวจสอบการประมูลงานทำความสะอาดในสภาฯ อาจเข้าข่ายไม่โปร่งใส่ ตั้งข้อสังเกตส่งซิกตัวเลขให้บริษัทอีกเจ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา เรือเอกหญิง กัณตวรรณ แก้วบัวดี กรรมการจัดผู้จัดการบริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเสนอราคางานจ้างเหมาทำความสะอาดของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

เรือเอกหญิง กัณตวรรณ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับการว่าจ้างในโครงการทำความสะอาดภายในสภาฯมานานกว่า 10 ปี โดยที่ผ่านมาก็ได้ประมูลแข่งขันเสนอราคาตามขั้นตอนปกติ แต่ในครั้งล่าสุดซึ่งมีโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ก็ได้มีเจ้าหน้าที่สภาฯส่งอีเมลแจ้งมาที่บริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 67 เพื่อขอให้บริษัทฯส่งใบเสนอราคาจ้างเหมาบริการทำความสะอาดสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และได้แจ้งว่าแก้ทีโออาร์ ซึ่งบริษัทฯเข้าใจว่าที่ให้ส่งใบเสนอราคา เพราะต้องเอาไปทำราคากลาง เหมือนการสืบราคา เนื่องจากแก้ไขทีโออาร์

จากนั้นจึงส่งราคากลางเดิมกลับไปทางอีเมล เพราะเปลี่ยนอย่างไรขอบเขตงานก็ใช้จำนวนคนเท่าเดิม หรือหากเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็คงไม่ทำให้วุ่นวาย อีกทั้งที่เราหลงเชื่อ เพราะไม่มีเอกสารต้องยื่นแนบ และในวันถัดไปก็ให้พนักงานบริษัทฯนำเอกสารตัวจริงไปยื่น นอกจากนี้เราก็ได้สั่งของมาไว้เพื่อเตรียมทำงานอีก 3 เดือน แต่เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 67 กลับมีประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอีกบริษัท ที่เสนอราคา 15,099,840 บาท ถูกกว่าราคาที่บริษัทตนเสนอไปประมาณ 4 แสนบาท

เรือเอกหญิง กัณตวรรณ บอกอีกว่า ตนได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ของสภาฯ เพราะสงสัยว่าบริษัทตนไม่ได้เพราะอะไร เจ้าหน้าที่สภาฯแจ้งว่า ราคาที่บริษัทตนเสนอไปแพงกว่าของอีกบริษัท ตนจึงถามว่าเราประมูลกันไปเมื่อไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ถามย้ำไปแล้วว่าเป็นการยื่นราคากลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาเอาราคากลางไป และอีกเจ้าก็มายื่นราคาต่ำกว่า จึงเกิดความสงสัยว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ ตนไม่เคยเจอแบบนี้ การประมูลงานไม่ได้เป็นแบบนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางคนบอกกับพนักงานของตนว่า “มัดชาอยู่ไม่ได้แล้ว ออกไปบ้าง ออกไปอยู่ที่อื่นบ้าง ให้เจ้าอื่นเขามาทำบ้าง” ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาบริษัทของตนไม่ได้ผูกขาด เราประมูลตามขั้นตอน ไม่ว่าสภาฯจะร้องขออะไร เราก็ทำให้ แม้บางครั้งค่าจ้างเราได้รับช้า 6 เดือน หรือ 7 เดือนก็มี อีกทั้งการให้ตนส่งราคาในทางอีเมล ทุกคนก็เห็นราคาที่บริษัทตนเสนอ และการยื่นราคางานระดับ 15 ล้านบาท มันต้องมีเอกสารมากกว่านี้ งานแค่หลัก 2-3 ล้านบาท ยังต้องมีเอกสารประกอบ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย มีใบเสนอราคาใบเดียว

ส่วนการที่สภาฯได้เปลี่ยนทีโออาร์ใหม่นั้น เรือเอกหญิง กัณตวรรณ บอกว่า ตนก็สงสัยว่าจะแก้เพื่ออะไร ในเมื่อคุณมีงบประมาณเท่าเดิม เขาบอกกับตนเองว่า เขาไม่มีงบ อย่างไรก็ตามตนเพิ่งทราบว่าการเปลี่ยนทีโออาร์ทำให้เขาสามารถไม่ต้องจ้างบริษัทเดิมได้ สามารถจ้างบริษัทอื่นได้ ดังนั้นพูดง่าย ๆ เขาทำเพื่อจะเอาเจ้าใหม่ ขณะเดียวกันส่วนใหญ่งานระหว่างปีเขาจะไม่แก้ทีโออาร์ เขาจะแก้เวลาประมูลใหญ่ จึงแปลกมาก จ้าง 3 เดือนกลับแก้ทีโออาร์ ตนคิดว่ามันผิดสังเกตหลายอย่างมาก

นอกจากนี้ตนทราบว่าบริษัทนี้ทำงานที่วุฒิสภา แต่เขาหลุดงานวุฒิสภา และวันนี้เขาได้นำใบสมัครมาให้พนักงานของตนไปทำงานด้วยแล้ว และยังฝากพนักงานมาถามเจ้าของว่า จะขายอุปกรณ์ให้หรือไม่ แสดงว่าเขาหาอุปกรณ์ไม่ทัน และพนักงานที่จะต้องนำมาทำงานก็เกือบ 300 คน ตนจึงมาร้องสื่อ เพราะตนเหลือเวลาอีกถึงแค่วันจันทร์ที่ 30 ก.ย. 67 นี้ ก็ต้องขนของออกมาจากสภาฯแล้ว อุปกรณ์ที่ตนได้เตรียมไว้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็เอามาลงไว้หมดแล้ว เพราะคิดว่าต้องเริ่มงานวันที่ 1 ต.ค. 67 

ทั้งนี้ นางวราพร เกตุแก้ว ผู้จัดการโครงการงานรักษาความสะอาดในรัฐสภา บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ได้เข้ายื่นร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบและชี้แจงขอเท็จจริง

ขณะที่ นายอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เขามีคณะกรรมการคัดเลือก ส่วนที่บริษัทมัดชาให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่สภาฯส่งอีเมลแจ้งให้บริษัทเพื่อขอราคากลาง แต่ท้ายที่สุดกลับเอาราคามาพิจารณาคัดเลือกนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ต้องสอบถามคณะกรรมการที่จัดซื้อจัดจ้างเรื่องนี้ ซึ่งตนก็ต้องเห็นชอบตามที่คณะกรรมการเสนอมา ขั้นตอนและรายละเอียด ตนไม่ทราบ อยู่ที่คณะกรรมการ ซึ่งประเด็นนี้งบประมาณมันออกช้า เขาจึงทำการคัดเลือกหาบริษัทมา โดยใช้วิธีคัดเลือก เลือกมา 3-4 บริษัท แล้วเลือกมา 1 บริษัท ให้มาดำเนินการในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึง ธ.ค. ก่อน หลังจากนั้นก็จะประกวดราคาอีกครั้ง ซึ่งโดยปกติเขาจะใช้การประมูลแบบอีบิดดิง ถ้ามีเวลาเหลือ แต่ครั้งนี้เร่งด่วน จึงใช้วิธีการคัดเลือก