ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชายเสียชีวิตปริศนา หูทั้ง 2 ข้างขาด มีผู้ต้องสงสัยที่อาจจะเป็นฝีมือเป็นมนุษย์ หรืออาจเป็นสุนัขจรจัด ตำรวจกำลังเร่งคลี่คลายปม
ชายตายปริศนา หูขาด 2 ข้าง จ.อุบลราชธานี
ตำรวจ สภ.ดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในตำบลคำไฮใหญ่ อำเภอดอนมดแดง พบศพ นายเวชชัย อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล นอนหนุนหมอน คว่ำหน้าจมกองเลือด บริเวณศีรษะมีแผลฉกรรจ์ หูทั้ง 2 ข้างหลุดออกจากศีรษะ รอบลำคอมีรอยเขี้ยวสัตว์ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-6 ชั่วโมง
ตรวจสอบรอบบ้าน พบกองเลือดอยู่บริเวณโต๊ะไม้ด้านหลังบ้าน ทางเดินด้านข้างบ้าน และประตูหลังบ้านเป็นทางยาว จนถึงจุดที่พบศพ แต่ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ ได้ลงตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมวางยาสลบสุนัขจรจัดเพศเมีย 2 ตัว ตัวแรกเป็นพันธุ์ไทยผสมร็อตไวเลอร์ และอีกตัวเป็นพันธุ์ไทยผสมพิตบุลล์ หลังมีการตั้งข้อสังเกตว่า สุนัขทั้ง 2 ตัว อาจเข้าไปทำร้ายนายเวชชัย จนเสียชีวิตหรือไม่
จากการตรวจสอบสภาพร่างกายของสุนัข 2 ตัว โดยเฉพาะตัวสีน้ำตาล เป็นสุนัขพันธุ์ไทยผสมพิตบุลล์ พบบริเวณหน้าผากมีบาดแผลยาวประมาณ 5 เซนติเมตร มีเลือดซึมบริเวณเท้าหน้า คล้ายรอยเลือดจาง ๆ ติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการถ่ายรูป และวัดความยาวเขี้ยว เพื่อไปเทียบกับบาดแผลที่ศพ
ญาติสงสัย ฝีมือเพื่อนร่วมวงเหล้า จ.อุบลราชธานี
ด้านแม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนพบศพลูกชาย ไปบ้านที่เกิดเหตุ เห็นเลือดกระจายอยู่ข้างบ้าน จึงได้ตะโกนเรียกลูกชาย แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงเดินไปเปิดประตูหลังบ้าน พบสุนัขสีน้ำตาลวิ่งสวนออกมา จากนั้นพบร่างลูกชาย
ขณะที่ น้องสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติพี่ชายจะพักที่บ้านอีกหลัง แต่ช่วงนี้มาใส่ปุ๋ยข้าว จึงมาพักที่บ้านหลังนี้ ส่วนตัวคิดว่าพี่ชายน่าจะถูกคนทำร้ายเสียชีวิต ตอนนี้สงสัยกลุ่มที่ดื่มเหล้ากับพี่ชาย และหลังจากพี่ชายเสียชีวิต กลิ่นเลือดอาจจะทำให้สุนัขจรจัดทั้ง 2 ตัว เข้ามากัดแทะร่าง
เรียกสอบผู้ต้องสงสัยโยงคดีตายปริศนา จ.อุบลราชธานี
ล่าสุด ตำรวจเชิญผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่นั่งดื่มสุรากับผู้เสียชีวิตมาสอบสวน และเก็บ DNA เพื่อส่งตรวจที่จังหวัดนครราชสีมา ว่าตรงกับ DNA ในจุดเกิดเหตุหรือไม่ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน ในการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต เกิดจากเสียเลือดมาก เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่ขณะนี้ให้น้ำหนักว่าอาจจะเกิดจากการถูกสุนัขทำร้ายมากกว่า
