ศาลฯ ยกคำร้อง หัวหน้าแก๊งเชื่อมจิต ร้องทนายอนันต์ชัย กล่าวหาว่าเด็กเชื่อมจิต เป็นออทิสติก

View icon 332
วันที่ 25 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยกคำร้อง หัวหน้าแก๊งเชื่อมจิต ร้องทนายอนันต์ชัย กล่าวหาว่าเด็กเชื่อมจิต เป็นออทิสติก
   
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยกคำร้อง หัวหน้าแก๊งลัทธิเชื่อมจิต ร้องทนายอนันต์ชัย กับพวก ที่กล่าวหาว่า เด็กเชื่อมจิต เป็นออทิสติก

วันนี้ (25 ก.ย. 67) เวลา 10.00 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี วินิจฉัยยกคำร้อง แก๊งเชื่อมจิต ปมร้องทนายอนันต์ชัย กับพวก ที่กล่าวหาว่าเด็กเชื่อมจิตเป็นออทิสติก 

ศาลฯ พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ววินิจฉัยสรุปว่า จากการที่เด็กเชื่อมจิต ไลฟ์กับบิดามารดา ต่อว่าพิธีกรดัง มีลักษณะตาและมือเหมือนกับเด็กพิเศษ ประกอบทั้ง มารดาของเด็กเชื่อมจิต เคยสอบถามเรื่องนี้กับ พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า น้องเป็นออทิสติกหรือไม่?

ทำให้ผู้ร้องทั้งสาม หรือแก๊งชื่อมจิต ตั้งข้อสงสัยว่า น้องมีอายุเพียง 5 ขวบแต่สอนธรรมโดยวิธีเชื่อมจิต ซึ่งไม่มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฏก อันเป็นการขัดต่อมติมหาเถรสมาคมที่ 424/2567 ฯ อย่างชัดเจน

ดังนั้นการที่ผู้ถูกร้องทั้งสาม หรือแก๊งชื่อมจิต ได้ไปออกรายการใด ๆ หรือไลฟ์แชร์ข่าวเกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตว่า เด็กเชื่อมจิต เป็นออทิสติกจริงหรือไม่ ? จึงไม่เป็นการทำร้ายจิตใจเด็กเชื่อมจิต อันจะเป็นความผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 27 จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตราการหรือข้อกำหนดใด ๆ ต่อผู้ถูกร้องทั้งสามยกคำร้อง

คดีนี้ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา27 “ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ” และมีโทษทางอาญา ตามมาตรา79 “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 มาตรา 50 หรือมาตรา 61 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

การที่ผู้ร้องมา ร้องเท็จหรือฟ้องเท็จ ย่อมมีความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา175  “ผู้ใดเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา หรือว่ากระทำความผิดอาญาแรงกว่าที่เป็นความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท” และเบิกความเท็จ ตามป.อาญา มาตรา177 “ผู้ใดเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ถ้าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท” คดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงที่สุดแล้ว อุทธรณ์ไม่ได้ ได้เวลาเช็กบิล แล้วเจอกันที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง