ดรามา ! พา ครูเบญ ตรวจข้อสอบตัวเอง

View icon 5.9K
วันที่ 20 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เจ้าหน้าที่พาตัว "ครูเบญ" ไปตรวจข้อสอบตัวเอง โดยไม่ให้ใช้มือถือ และห้ามตั้งกล้องถ่ายวิดีโอ จนกลายเป็นดรามา โดยวันนี้มีผลการตรวจข้อสอบเบื้องต้นออกมาแล้ว

จากกรณี ครูเบญ สอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว แต่ 3 วันต่อมา รายชื่อหายปริศนา แล้วมีชื่อคนอื่นมาแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ สพม. สระแก้ว ชี้แจงว่า มีการตรวจสลับข้อสอบ ทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้

ขณะที่เมื่อคืน (19 ก.ย.) มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โพสต์ข้อความที่กลายเป็นประเด็นดรามาว่า "ต้องรีบปิดจ๊อบ! ครูเบญ เจ้าหน้าที่บุกพาตัวไปตรวจข้อสอบตัวเอง 18.00 น. ถึงราว 19.00 น. ไม่ให้ใช้มือถือ ตั้งกล้อง VDO ถ่าย พรุ่งนี้ (หมายถึงวันนี้ 20 ก.ย.) ครูเบญ จะรับพระราชทานปริญญา รีบสรุปปิดจบ เพราะระดับกระทรวงฯ ขีดเส้นตายตอนแรกครูเบญ ไม่อยากไป แต่ด้วยทางหน่วยเหนือ ให้ทั้งระดับ ผอ.โรงเรียนที่ครูเบญสอน ไปติดต่อพูดคุย และให้อาจารย์โรงเรียนไปรับตัวมาพูดคุย จึงต้องไป คณะที่ไปพบ ครูเบญ มีทั้งนิติกร และผู้เกี่ยวข้อง ได้นำข้อสอบให้ครูเบญ ตรวจสอบ และให้เซ็นชื่อรับรองการตรวจสอบ"

ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะแถลงข่าวในวันนี้ (20 ก.ย.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สพฐ. ขอเลื่อนการแถลงข่าวผลการสืบข้อเท็จจริงออกไปก่อน เนื่องจาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ประสงค์ให้ ครูเบญ ได้ร่วมแถลงข่าวด้วย ฉะนั้นต้องรอ ครูเบญ มีความพร้อมซะก่อน

ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่มีบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พาตัวครูเบญไปตรวจข้อสอบตัวเองในเวลานอกราชการ โดยมีการยึดมือถือ และไม่ให้เก็บหลักฐานใด ๆ แบบนี้มีความชอบธรรมทางกฎหมายหรือไม่

ล่าสุด ผลสืบเบื้องต้นของ สพฐ. พบว่า ผลสอบของครูเบญ คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ทั้งภาค ก. และ ภาค ข. จริง และไม่ติด 1 ใน 10 โดยเรื่องนี้ทาง ครูเบญ ได้ยืนยันผลแล้ว

ส่วนคนที่ได้ที่ 1 ก็พบว่า คะแนนสูงสุดจริง บุคคลดังกล่าวมีผลการเรียนที่ได้เกียรตินิยม และสภาพแวดล้อมหลายอย่างที่ยืนยันได้ว่าน่าจะสอบได้จริง แต่ก็ต้องรอผลการสอบของผู้เชี่ยวชาญยืนยันอีกครั้ง

ด้านคุณยายครูเบญ เปิดใจว่า วันแรกที่รู้ข่าวว่าหลานสาวสอบผ่านรู้สึกดีใจมาก เพราะหลานเป็นเด็กขยัน ส่งตัวเองเรียนจนสามารถจบปริญญาตรี และเมื่อมีการสอบ หลานก็จะลงสมัครสอบทุกครั้ง เพื่อความมั่นคงของตัวเองและครอบครัว ซึ่งตอนนี้ ครูเบญ มีอาการทุกข์ใจอย่างหนัก ฉะนั้นทางครอบครัวจะไม่ขอให้สัมภาษณ์อีกแล้ว

ขณะเดียวกันมีการแชร์ข้อมูลอีกด้านของคนที่มีชื่อโผล่เสียบแทนครูเบญว่า จริง ๆ แล้ว เธอเป็นคนเก่งระดับหัวกะทิ เคยสอบผ่านสนามอาชีวะ โดยติด 1 ใน 400 คน จากผู้สอบทั้งหมด 10,000 คน เพราะน้องสอบผ่าน ภาค ก. ภาค ข. สนามอาชีวะ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ยากกว่า สพม. ถ้าน้องใช้เส้นสายจริงค่อยด่า

โดยผู้โพสต์ยังตั้งข้อสังเกตวิเคราะห์ ถึงความน่าจะเป็นของเหตุการณ์นี้

1. ทำไมชื่อน้องคนแรกหายไปเลย? เป็นไปได้หรือไม่ หายเพราะประกาศชื่อผิด เพราะเลขลำดับผู้เข้าสอบของน้องสองคนติดกันเลย มีโอกาสที่จะคีย์เลขท้ายผิด โดยไม่ทวนรายชื่อ ส่วนลำดับที่ 2-10 รายชื่อครบ แต่สลับอันดับกัน ตามคำชี้แจงที่บอกว่าเฉลยข้อสอบผิด

2. นามสกุลน้องคนที่มาเสียบ นามสกุลเดียวกับ ผอ.โรงเรียน ภาพที่แชร์มา 2 ปีแล้ว ตอนนั้นน้องน่าจะเป็นครูอัตราจ้าง ปัจจุบันน้องคนนี้ยังไม่รู้จะได้ลงที่โรงเรียนนี้หรือเปล่า

3. น้องคนที่มาเสียบ สอบติดสนามอาชีวะ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ยากกว่า สพม. รอสัมภาษณ์ภาค ค.

4. ศูนย์สอบธรรมศาสตร์ เคยโพสต์ไว้ เมื่อ 6 กันยายน ว่าสนามนี้ยาก คนที่สอบผ่านคือระดับหัวกะทิ