เช้านี้ที่หมอชิต - พายุโซนร้อนซูลิก ขึ้นฝั่งแล้วที่ประเทศเวียดนามตอนกลาง และจะถึงภาคอีสาน คืนวันที่ 19 กันยายน และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน โดย 2 จังหวัดแรก ที่จะเป็นกันชนด่านหน้า คือ สกลนคร และ นครพนม ทำให้คืนที่ผ่านมา จังหวัดนครพนม เริ่มมีฝนตกในพื้นที่แล้ว
ช่วงเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา จังหวัดนครพนม ได้รับผลกระทบจากฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำให้ฝนเริ่มตกหนัก คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่องทั้งคืน โดยทางเทศบาลเมืองนครพนม ได้เตรียมพร้อมรับมือ เดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ในจุดเสี่ยงรวม 7 จุด ระบายน้ำจากตัวเมืองลงสู่น้ำโขง แต่ช่วงนี้ระดับน้ำโขงสูง ที่ระดับ 11.70 เมตร ห่างจากจุดเฝ้าระวังล้นตลิ่ง ที่ 30 เซนติเมตร ทำให้มวลน้ำในพื้นที่ รวมถึงลำน้ำสาขาระบายลงน้ำโขงช้า หากมีฝนตกต่อเนื่อง ต้องเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดตอนนี้ ในจังหวัดนครพนม คือ อำเภอสรีสงคราม เนื่องจากเป็นจุดรวมน้ำ สาขาสายหลัก ทั้งลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ไหลมารวมกัน ก่อนไหลลงแม่น้ำโขง
ล่าสุดปริมาณเกินความจุ เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าว ของเกษตรกร จำนวนกว่า 50,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือน ของชาวบ้าน บางส่วน เกิดน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลท่าบ่อสงคราม อำเภอศรีสงคราม เนื่องจากพื้นที่ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเกือบทุกปี โดยมีภาครัฐให้การช่วยเหลือ จนกว่าระดับน้ำลด
ส่วนที่ จังหวัดสกลนคร แหล่งน้ำขนาดใหญ่ทั้งเขื่อนน้ำอูน อำเภอพังโคน และ ปริมาณน้ำในหนองหาร อำเภอเมืองสกลนคร ตอนนี้ มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งสองแห่ง ประมาณ 80 เปอร์เซนต์ เกือบเต็มความจุกักเก็บ ทำให้สำนักงานชลประทานสกลนคร ต้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนน้ำอูน วันละ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำอูน และ ระบายน้ำหนองหาร วันละเกือบ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำก่ำ ไปลงแม่น้ำโขง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับมวลน้ำจากฝนตกหนัก อิทธิพลของพายุลูกใหม่
จังหวัดมุกดาหาร นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ประชุมเตรียมรับมืออุทกภัย เตือนภัยพายุดีเปรสชัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้จังหวัดมุกดาหาร มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
ล่าสุดเวลา 23 .00 น. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนัก เทศบาลเมืองมุกดาการ คาดว่าจะตกต่อเนื่องทั้งคืน เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ในจุดเสี่ยงตามจุดระบายน้ำ จากตัวเมืองลงสู่น้ำโขง พร้อมกับแจกจ่ายกระสอบทรายให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ด้าน กรมชลประทาน อัปเดตสถานการณ์แม่น้ำโขง ภาคอีสาน แม้ว่าสถานการณ์น้ำจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
เนื่องจาก กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าจะมีพายุดีเปรสชันพัดผ่านเข้ามาอีกในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
โดยเริ่มจากทางภาคอีสานตอนบน และตอนกลาง จึงขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อไป
