ฆ่าโหดพ่อ-ลูกนายฮ้อย ค้อนทุบหัวยิงซ้ำ

View icon 150
วันที่ 20 ก.ย. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - คนร้ายใช้ไม้ทุบหัว เชือกรัดคอ ยิงซ้ำพ่อลูกนายฮ้อย ตะเวนรับซื้อ-ขายวัว ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนนำศพไปอำพรางกลางทุ่งนา

ตำรวจ สภ.ยางตลาด พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิต 2 คน ถูกทิ้งศพไว้ที่ท้ายรถกระบะ ทะเบียนจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่จอดอยู่กลางทุ่งนา บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองอิเฒ่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีวัว 1 ตัว ยืนอยู่ข้าง ๆ

ทั้ง 2 เป็นพ่อลูกกัน คนพ่อชื่อ นายเหรียญ อายุ 62 ปี ตามร่างกายพบบาดแผลถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณชายโครงด้านซ้าย 1 นัด นอนคว่ำหน้าทับศพลูกชาย คือ นายปิยพงษ์ อายุ 32 ปี ที่ศีรษะถูกของแข็งตีอย่างแรงจนบวมเลือดออกตา บริเวณลำคอพบรอยเชือกรัด และมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด

ตรวจค้นกระเป๋าของของ นายปิยพงษ์ คนลูก พบเงินสดและเศษเหรียญ รวมกันเกือบ 4,000 บาท ส่วนเงินสดประมาณ 100,000 บาท ที่ได้จากการขายวัว และสร้อยคอทองคำ 1 บาท หายไป

ห่างจากจุดพบศพไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นเขตพื้นที่บ้านหนองโก ตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก เชือกคล้อง กระดุมเสื้อ และคราบเลือดอยู่ตามพื้นดินหลายจุด คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่คนร้ายลงมือฆ่าทั้ง 2 คน แล้วนำศพไว้ท้ายกระบะ ข้ามฝั่งไปทิ้งในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์

สอบถามชาวบ้านเห็นทั้งสองคนนอนอยู่บริเวณดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 กันยายน คิดว่าทั้งสองนอนพักผ่อน เลยไม่ได้สนใจ จนมาพบเป็นศพ

ภรรยา นายปิยพงษ์ บอกว่า พ่อสามีและสามี มีอาชีพเป็นนายฮ้อย ตระเวนรับซื้อวัวในตลาดนัดโคกระบือหลายจังหวัดในภาคอีสาน ช่วงเช้าวันที่ 18 กันยายน ได้ออกจากบ้านที่ ตำบลเขาพระนอน ไปซื้อ-ขายวัวที่ตลาดนัดบ้านหัน จังหวัดมหาสารคาม ตามปกติ กระทั่งเวลา 09.00 น. ได้โทรไปหา แต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์ พยายามโทรหาหลายครั้ง แต่ก็ปิดเครื่อง จึงเอะใจ ชวนญาติออกตามหา กระทั่งมีคนโทรมาบอกว่าพบศพ

ตำรวจพุ่งเป้าไปที่บุคคลที่รู้จักกับสองพ่อลูกที่เสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มนายฮ้อยด้วยกัน กระทั่งพบชายต้องสงสัย เป็นชายอายุ 20 ปี เป็นนายฮ้อยด้วยกัน และนัด ทั้งสองคนไปดูวัว และอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัวไป และช่วงเวลาพบศพ นายชลนที มีท่าลุกลี้ลุกลน จึงเชิญตัวไปสอบปากคำ นาย 5 ชั่วโมง จึงยอมรับว่าเป็นผู้ล่อลวงทั้งคู่ ไปให้เพื่อนที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดฆ่า ก่อนชิงเอาเงินไป 100,000 บาท และสร้อยคอทองคำ 1 บาท โดยอ้างว่า เป็นหนี้เพื่อนกลุ่มนี้ ตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การทั้งหมด ซึ่งจะต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งติดตามตัวกลุ่มบุคคลที่ นายชลนที ซักทอดมาสอบสวนต่อไป