วันนี้ (19 ก.ย. 67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รับเรื่องราวร้องทุกข์จากภรรยาตำรวจคนหนึ่ง อ้างว่าถูกสามีที่เป็นตำรวจทำร้ายร่างกาย ทุบตี ซ้อม และทำร้ายจิตใจด้วยการดูไลฟ์ห้อง VIP ที่จะมีผู้หญิงมาเต้นโป๊และสำเร็จความใคร่ต่อหน้าตนเอง ซึ่งตนเองไม่สามารถทำอะไรฝ่ายชายได้
สำหรับผู้หญิงคนดังกล่าว อายุ 40 ปี ส่วนสามีที่เป็นตำรวจ อายุ 31 ปี เป็นตำรวจชั้นประทวน ยศสิบตำรวจตรี (ส.ต.ต.) เป็นตำรวจนครบาล สังกัด บก.อคฝ. บช.น. โดยบอกว่า คบหากับตำรวจนายนี้ได้ประมาณ 8-9 ปี และเพิ่งจดทะเบียนสมรสกันเมื่อปี 2566 มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ตอนนี้อายุ 2 ขวบ นอกจากนี้ตนยังมีมีลูกติดที่อยู่ด้วยกันเป็นลูกสาว 2 คน ปัจจุบันอายุ 21 ปี และ 18 ปี
ผู้เสียหาย บอกจุดเริ่มต้นของการพบเจอกับตำรวจนายนี้ว่า ตอนนั้นฝ่ายชายยังเป็นเด็กวัด แล้วมาตามจีบตนเรื่อย ๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งตอนแรกตนก็ปฏิเสธ แต่ฝ่ายชายก็ตื๊อ จนสุดท้ายก็ยอมตกลงปลงใจคบกัน ก่อนที่ประมาณ 5 ปีที่แล้ว ฝ่ายชายสามารถสอบติดตำรวจนายสิบได้สำเร็จ ส่วนตนก็เป็นคนช่วยสนับสนุนทั้งการเงิน ของกิน และส่งกำลังใจให้ฝ่ายชายมาโดยตลอด จนเรียนจบและได้รับราชการตำรวจ
อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่มีความราบรื่นเลย เพราะฝ่ายชายหลังจากที่ได้คบกันแล้ว ก็จับได้ว่ามีผู้หญิงมาพัวพันโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่คบกัน ไม่เคยใส่ใจและดูแลตนเองเลย แม้กระทั่งมีลูกเล็กด้วยกัน เขาก็ไม่เคยที่จะเหลียวแล งานการที่บ้านก็ไม่ทำ ล้างขวดนมลูกก็ไม่ทำ กลายเป็นว่าตนเองต้องเป็นคนดูแล หาข้าว หาน้ำ และจัดการงานบ้านให้เขามาโดยตลอด รวมทั้งไม่เคยบอกรัก หรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใยกันด้วย
นอกจากนี้ ฝ่ายชายยังชอบมีพฤติกรรมดูไลฟ์ตามห้อง VIP ต่าง ๆ ที่จะมีสาวมาแก้ผ้าโชว์เรือนร่าง ไปจนถึงสำเร็จความใคร่ด้วยอุปกรณ์ทางเพศ และอุปกรณ์ประหลาดอื่น ๆ เช่น มะระ กระป๋องเบียร์ เป็นต้น ซึ่งทุกครั้งที่ฝ่ายชายดูนั้น จะดูอยู่บนเตียง ทั้ง ๆ ที่นอนอยู่กับตนเอง และบ่อยครั้งที่ฝ่ายชายมักจะกดส่งของขวัญ หรือส่งเงินให้กับหญิงที่ไลฟ์ในห้อง VIP ก่อนที่จะเกิดอารมณ์ทางเพศ แล้วมามีเพศสัมพันธ์กับตนอีก ซึ่งตนไม่กล้าห้ามหรือทำอะไรได้ เพราะเข้าใจฝ่ายชายว่า ตัวเองไม่ได้มีร่างกายที่เซ็กซี่หรือสวยงามเหมือนแต่ก่อนที่จะดึงดูดได้ เพราะสภาพร่างกายที่อายุมากขึ้นและป่วย เลยปล่อยให้ฝ่ายชายกระตุ้นอารมณ์ผ่านสื่อลามกออนไลน์ไป
ผู้เสียหาย บอกต่อว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้อย่างมาก คือเรื่องการทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายชายมักจะพูดจาทำร้ายจิตใจและตบหน้าบ่อยครั้ง แต่ก็จำทนมาโดยตลอด มาหนักที่สุดก็เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ตามที่ปรากฏในคลิป โดยในวันนั้นฝ่ายชายได้ไปเล่นกับเพื่อนตั้งแต่เย็น แล้วกลับมาที่ห้องตอนประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นตนกำลังหยิบมีดไปปอกแอปเปิลให้ลูกกิน เมื่อฝ่ายชายเข้ามาในบ้าน ตนก็ถามไปว่าทำไมถึงกลับดึก แต่ฝ่ายชายเห็นว่าตนถืออาวุธมีด จึงเข้าใจผิดคิดว่าตนจะทำร้ายร่างกายเขา แล้วปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ทั้งตบ ต่อย ผลักเข้ากำแพง บีบคอ และเอาเท้ากระทืบที่ท้อง จนตนเองเกือบตายต่อหน้าลูกทั้ง 3 คน ลูกสาวก็ทำได้เพียงแค่ถ่ายคลิป ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง ส่วนลูกชายวัย 2 ขวบ ก็ได้แต่ร้องไห้
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตนตัดสินใจแยกหนีออกมาจากฝ่ายชาย แล้วมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากต้องการที่จะขอความเป็นธรรมกับเรื่องนี้ และอยากให้ฝ่ายชายได้รับโทษทางกฎหมาย รวมทั้งถูกไล่ออกจากราชการด้วยพฤติกรรมดังกล่าว เพราะตนถูกฝ่ายชายหยามศักดิ์ศรีมามากพอแล้ว และมองว่าฝ่ายชายนั้นควบคุมตนเองไม่ได้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการตำรวจอีกต่อไป ซึ่งยังไม่รวมถึงเรื่องที่ฝ่ายชายเอาเงินและรถของตนไปเข้าไฟแนนซ์ ทำให้ต้องเสียทรัพย์สินเงินทองให้กับฝ่ายชายเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ตนป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย แต่ก็ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายรุนแรงได้ถึงขนาดนี้
ผู้เสียหายบอกด้วยว่า ที่ผ่านมายอมทนเพราะความรักที่มีให้กับฝ่ายชาย และไม่อยากที่จะเลิกรากับฝ่ายชาย โดยก่อนหน้านี้ลูก ๆ ก็พยายามบอกให้ตนแยกออกมาจากฝ่ายชาย แต่กลายเป็นว่าตนเองไปต่อว่าลูกอีก เพราะให้เหตุผลกับลูกว่า กลัวลูกจะไม่มีพ่อ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยเลิกรากันบ่อยครั้งเป็นระยะสั้น ๆ สุดท้ายก็เป็นฝ่ายตนที่ไปง้อขอคืนดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ตนตัดสินใจที่จะแยกออกมาจากฝ่ายชายอย่างถาวร ยอมรับว่ายังรัก แต่จะไม่กลับไปหาฝ่ายชายอีกแล้ว หากฝ่ายชายมาง้อ ก็ไม่ให้โอกาสคืนดีกันอีก
ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังระบุว่า สามีที่เป็นตำรวจนายนี้เคยล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งการกระทำและด้วยวาจากับลูกสาวทั้งสองคนที่เป็นลูกติดของตน โดยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่ลูกสาวคนของตนอายุ 14 ปี ถูกฝ่ายชายใช้มือล้วงอวัยวะเพศ เมื่อทราบเรื่องก็ได้ร้องขอกับลูกว่า อย่าไปแจ้งความหรือประจานเรื่องดังกล่าว เพราะตนเห็นแก่ฝ่ายชายที่กำลังมีอนาคตไปได้ดีในสายงานราชการตำรวจ แต่รับปากกับลูกว่า เธอจะไปเคลียร์กับฝ่ายชายด้วยตนเอง ส่วนลูกสาวคนโตวัย 21 ปี เคยถูกฝ่ายชายขอที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ลูกสาวได้ปฏิเสธ พร้อมกับพูดต่อว่าไล่ไป เพราะมองเป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง
ด้าน นายเอกภพ บอกว่า พฤติกรรมของตำรวจนายนี้ค่อนข้างโหดร้ายและรุนแรงอย่างมาก รวมทั้งยังกระทำกับเด็กที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองอีกด้วย โดยหลังจากนี้จะประสานไปยัง ผบก.อคฝ. เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจนายนี้ และขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง รวมทั้งจะนำผู้เสียหายและลูกสาวทั้งสองคนไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจนายนี้ในเรื่องทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศต่อไป อย่างไรก็ตาม จะประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้เข้ามาดูแล ครอบครัวของผู้เสียหายอีกด้วย
