“เพื่อไทย” ชูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปม 8 ปี “ลุงตู่” เป็นไกด์ไลน์กรอบเวลาพิจารณาจริยธรรมนักการเมือง
วันนี้ (19 ก.ย.67) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ โดยยอมรับว่า พรรคเพื่อไทย กำลังยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 6 ประเด็น โดยเฉพาะ 2 ประเด็นหลัก คือ ความชัดเจนเรื่องการซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามมาตรฐานจริยธรรม และ การแก้ไขคุณสมบัติผู้สมัคร สส.
โดยพรรคเพื่อไทย จะเสนอเรื่องการแก้ไขคุณสมบัติ สส. เช่น ความผิดบางประเภทที่ยอมความได้ อย่างความผิดฐานหมิ่นประมาท ได้รับโทษรอลงอาญา ควรได้รับการยกเว้น ให้สามารถสมัครรับเลือกตั้ง สส.ได้
ส่วนการซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ควรระบุให้ชัดเจนเพราะไม่มีอะไรที่สามารถชี้วัดได้ เช่น ปรับถ้อยคำเป็น ไม่มีพฤติกรรมหรือการกระทำเป็นที่ประจักษ์ว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และ กำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน โดยยกกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนนตรีไม่เกิน 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในขณะนั้น ที่ศาลให้นับตั้งแต่ใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นต้นมา ก่อนหน้านั้นไม่นับ
ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงยึดแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต พฤติกรรม และ การกระทำ ต้องนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้เป็นต้นมาเช่นกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงกรณีถูกพิจารณาคดีจริยธรรมร้ายแรงในศาลฎีกาด้วย ว่าขณะที่กำลังถูกพิจารณา สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ ต้องกำหนดให้ชัดเจน และ การให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ควรมีมาตรฐานสูง ดังนั้น ควรกำหนดให้การลงมติ เป็นไปตามหลักเสียงข้างมาก คือ 2 ใน 3
ส่วนกรณีโทษประหารชีวิตทางการเมือง ตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิตนั้น พรรคเพื่อไทย มองว่า โหดไปหรือไม่ ควรให้โอกาสคนกลับตัวเป็นคนดี กำหนดโทษแบนเพียง 5 ปีน่าจะเพียงพอ และ ควรยกเลิกการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะเสนอร่างรัฐธรรมนูญราย แก้ไขเพิ่มเติมรายมาตรา 4-5 มาตรา 6 ประเด็น ต่อประธานรัฐสภาในสัปดาห์หน้า แต่อาจไม่ทันการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งอาจจะขยับไปหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ โดยนายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงกลาโหม จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือกันอีกครั้ง
