น้ำท่วมหน้า ม.พะเยา เกิดจากฝนตกหนัก โครงการรถไฟทางคู่ไม่ใช่สาเหตุ

View icon 143
วันที่ 19 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
น้ำท่วมหน้า ม.พะเยา เกิดจากฝนตกหนักหลายชั่วโมง โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ไม่ใช่สาเหตุ รฟท.แจงโครงการเป็นงานดินตัดบริเวณเชิงเขาอยู่เหนือระดับคลองแม่กา ไม่ใช่เป็นการขุดร่องเขาเพื่อใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำ

นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ เปิดเผยว่าตามที่สื่อสังคมออนไลน์ระบุว่าน้ำท่วมหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา อาจมีสาเหตุร่วมจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย - เชียงของ ในพื้นที่จังหวัดพะเยา เพราะมีงานเปิดหน้าดินและถมดินคลองแม่กา ซึ่งเป็นคลองที่จะไหลผ่านหน้ามหาลัยพะเยานั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิด พบข้อเท็จจริงว่า มวลน้ำที่ไหลบ่าท่วมพื้นที่เกิดจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 105 มิลลิเมตร ในที่แคบบนภูเขาและลาดชันสูง มีความเร็วกระแสน้ำสูง ไหลผ่านตามคลองแม่กาลงสู่พื้นราบ โดยตามแนวคลองมีถนนพหลโยธินขนานด้านซ้าย และมีแนวทางรถไฟขนานด้านขวา เมื่อปริมาณน้ำหลากที่มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักมากและไหลเร็วเชี่ยว ไหลผ่านตามคลองมาถึงบริเวณใกล้เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ และมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน

น้ำท่วมไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างถนนลำเลียงถมคลองแม่ตามข่าว เพราะถนนลำเลียงไม่ได้ออกแบบเป็นฝายกั้นน้ำ มีการวางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร จำนวน 8 ท่อ ซึ่งเพียงพอต่อการระบายน้ำในสภาวะปกติ  โดยก่อนวันเกิดเหตุก็ไม่มีน้ำขังด้านเหนือน้ำในลักษณะอ่างหรือฝ่ายเก็บน้ำ แต่เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมาก ไหลเชี่ยวแรง ทำให้ถนนลำเลียงถูกกัดเซาะจนขาดอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้บริเวณพื้นที่น้ำท่วมระบายน้ำไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน ซึ่งหากมองจากภาพถ่ายมุมสูง ตามภาพแนวเส้นสีเขียวเป็นแนวทางรถไฟที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเป็นทางตัดไม่ใช่เป็นการถมดินคันทาง และไม่ได้เป็นเส้นทางระบายน้ำหรือขวางทางน้ำแต่อย่างใด แนวเส้นสีฟ้าเป็นคลองแม่กา พื้นที่สีแดงเป็นบริเวณหอพักที่คลองแม่กาไหลผ่าน เมื่อมีปริมาณน้ำหลากไหลล้นคลองประกอบมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกจึงเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้ให้บริษัทผู้รับจ้าง เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่โครงการ โดยได้นำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม รวมถึงนำเครื่องจักรไปช่วยขุดลอกคูคลอง และลอกท่อระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำขัง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง