จับพระปลอมในหมู่บ้านหรู ถูกจับสึกแล้วแต่ไม่เข็ด หวนกลับมาแอบแต่งผ้าเหลือง ปักหลักบิณฑบาตอยู่กับที่ และเลยเวลา อ้างถูกจับสึกไม่เป็นธรรม
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ก.ย. 67 พระวินยาธิการจังหวัดนนทบุรี พระปลัดสมบูรณ์ กิตติคุโณ เจ้าอาวาสวัดเรืองเวชมงคล พระครูวินัยธรสมนึก สิทธิมโน เจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด พระมหาสวัสดิ์ ฐิตวณฺโณ วัดบ่อ ลงพื้นที่พร้อมกับ นายโกวิทย์ กุลมี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี และกอ.รมน.จังหวัดนนทบุรี เพื่อจับกุมพระปลอมที่ทราบชื่อภายหลังคือนายบ่อพิศ แก้วแวว อายุ 55 ปี หลังถูกจับสึกเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่วัดนวลจันทร์ แต่ยังแต่งกายเป็นพระ บิณฑบาตภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริม ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจับกุมเจ้าหน้าที่คุมตัวไปที่วัดบ่อ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทำการถอดผ้าเหลือง เปลี่ยนการแต่งกาย ก่อนประสานตำรวจนำตัวดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ยังมีการเชิญพระที่ยืนบิณฑบาตอยู่กับที่ เกินเวลาที่กำหนด ภายในหมู่บ้านอีก 3 รูป มาว่ากล่าวตักเตือน
พระมหาสวัสดิ์ เผยว่า มีชาวบ้านแจ้งไปยังสำนักพุทธฯ และมีเจ้าหน้าที่ประสานงานมายังพระวินยาธิการ จังหวัดนนทบุรี คือเจ้าอาวาสวัดกลางเกร็ด และเจ้าอาวาสวัดเรืองเวชมงคล จึงเดินทางมาพร้อม ผอ.สำนักพุทธฯ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ พบพระ 4 รูป ซึ่งมี 3 รูปที่ออกมายืนบิณฑบาตอยู่กับที่ และเลยเวลา ทั้งหมดเจ้าอาวาสวัดที่พระจำวัดได้ตักเตือนแล้ว แต่ยังออกไปอีก จึงเชิญตัวมาว่ากล่าวตักเตือน และส่งให้เจ้าอาวาสพิจารณา ส่วนอีกรูปทางต้นสังกัดคือวัดนวลจันทร์ แจ้งว่าได้จับสึกไปแล้ว แต่มาแต่งกายโดยไม่ได้รับการอุปสมบทใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบ และได้ให้เปลี่ยนชุดกลับไปพร้อมดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพระรูปที่ถูกจับสึกได้อ้างว่า ทำไปเพราะความไม่รู้ และทำครั้งแรก รับปากว่าจะไม่ทำอีก ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป
ด้านนายบ่อพิศ อ้างว่า เพิ่งถูกจับสึกไป เมื่อในวันที่ 14 ก.ย. 67 โดยไม่ทราบสาเหตุว่ากระทำผิดเรื่องอะไร จากนั้นได้แต่งกายห่มผ้าเหลืองมาอาศัยอยู่ที่วัดปากคลองพระอุดม เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เพราะเคยอยู่ที่วัดนี้ สาเหตุที่แต่งกายเป็นพระ เพราะว่ายังคิดว่าตนเองยังเป็นพระอยู่ เนื่องจากไม่ทราบสาเหตุว่าถูกลาสิขาด้วยสาเหตุอะไร แต่หลังจากนี้ยืนยันว่าจะไม่แต่งกายเป็นพระสงฆ์แบบนี้อีก
