ภรรยาหลั่งน้ำตา! วอนสามีขับปาเจโร่ มือยิงหนุ่มวินจยย. มามอบตัวไม่ต้องหนี โทษจะได้เบา ด้านลูกสาวเผยปกติเป็นคนใจเย็น ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้
จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (17 ก.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง รับแจ้งเหตุชายถูกยิง ที่ ซ.แก้วอิน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยคนเจ็บเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง ถูกนำตัวขึ้นมาจากคูน้ำ และส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนคนยิงขับรถปาเจโร่หลบหนีไปหลังก่อเหตุ นั้น
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มปาเจโร่หัวร้อน ชักปืนไล่ยิงวินจยย. หนีตายกระโดดลงคูน้ำ ก่อนเดินลงไปยิงซ้ำ)
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มปาเจโร่ ไล่ยิงวินจยย.จนหนีตายลงคูน้ำ เผยโดนระรานไม่จบ แถมด่าพ่อ เลยทนไม่ไหว)
โดยวันนี้ (18 ก.ย. 67) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ภรรยานายโอ๊ด มือยิง เล่าว่า เหตุการณ์ตอนนั้นสามีของตน พร้อมกับตนเองกำลังขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน ซึ่งในรถมีกันอยู่ทั้งหมด 6 คน ลูก 4 คน และตนกับสามี ซึ่งในขณะที่สามีของตนขับรถอยู่ สามีของตนเห็นนายยุ่ง คู่กรณีพอดีตอนที่เปิดกระจกรถ และนายยุ่ง ก็วนรถกลับมาทางโรงเรียนที่ตนและสามีไปส่งลูก และประจวบเหมาะช่วงนั้นรถติด สามีตนเลยจอดรถ แต่นายยุ่ง ยังขับตามมาอยู่ เขาจึงลงรถไปพร้อมปืน
ตอนนั้นตนตกใจมาก เพราะว่าแฟนของตนมีปืนตั้งแต่เมื่อไร ลงไปก็ยิงเลย ตอนนั้นตนก็มองไม่ค่อยเห็นเพราะสายตาสั้น จึงมองภาพกว้าง ๆ เพราะตนได้ยินเสียงปืน ก็ไม่คิดว่านายยุ่ง จะขับตามมา ตนยังตกใจ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม กลัวจนมือไม้ชาไปหมด ไม่คิดว่าแฟนตนจะตัดสินใจทำแบบนั้น
เท่าที่ตนรู้ เขาเป็นคู่อริกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และที่ผ่านมาสามีตนโดนนายยุ่งทําร้ายร่างกาย จริง ๆ แล้วตนไม่รู้เลยว่าสามีโดนทําร้ายร่างกาย ตนมารู้ 2-3 วันผ่านไปแล้ว ว่าค นที่ทำร้ายสามี คือนายยุ่ง เพื่อนที่วินจักรยานยนต์รับจ้างเขา ซึ่งสามีตนประกอบอาชีพค้าของเก่า เก็บของเก่าขายเป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว ส่วนวิ่งวินก็เป็นอาชีพเสริม เขาก็ทํางานอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วเขาก็มีเพื่อนที่รู้จักคู่อริเขาทําร้ายร่างกาย ซึ่งตนไม่รู้เลยว่าแฟนโดนทำร้ายร่างกาย จนเพื่อนอีกคนหนึ่งมาเล่าให้ตนฟัง ว่า สามีถูกทำร้ายร่างกาย ทําไมมันไม่สู้คน ตนจึงกลับมาบ้าน ตนเห็นแล้วว่าสามีตนนอนซมช่วงนั้น เมื่อช่วงต้นปีทําไมเขานอนซม เขาไม่เล่าให้ตนฟังเลย จนตนไปรู้จากเพื่อนโทรมาเล่า
แล้วตนถึงมาสังเกตเห็นว่า หูของสามีเลือดไหล น้ำหนองไหลออกจากหู แล้วก็เจ็บหัว ใบหูช้ำไปทั้งแถบเลยคือช้ำมาก ตามลำตัวก็มีรอยช้ำประปรายตามแขน ตนก็ถามว่า ทําไมมีอะไรไม่บอก ทําไมไม่เล่าให้ฟังว่าโดนทําร้ายร่างกาย ตนสงสารเขานะ จึงให้ไปแจ้งความ แต่สามีตนบอกว่าไม่แจ้ง เพราะอยากให้เรื่องมันจบจะได้ไม่มีอะไร ตนก็ไม่รู้ว่าเขาบาดหมางกันเรื่องอะไร ตอนนี้ตนก็ไม่ได้ติดต่อกับสามีเลย พยายามดูโทรศัพท์อยู่ เพราะเขาไม่มีโทรศัพท์เลย เขาไม่ได้พกไป เพราะเขาตั้งใจไปส่งลูกที่โรงเรียน และในเวลาปกติเขาก็ไม่ค่อยได้พกโทรศัพท์อยู่แล้วด้วย เพราะจะอยู่แต่บ้าน
ตนก็อยากบอกว่า "ถ้าพ่อดูข่าวอยู่ แม่เป็นห่วง ลูก ๆ ก็เป็นห่วง ถ้าพ่อมอบตัวโทษอาจจะเบาลง อยากให้พ่อคิดดี ๆ คิดให้รอบคอบ รักพ่อห่วงพ่อนะ"
ขณะที่ ลูกสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุตอนนั้นตนลงไปห้ามพ่อ เพราะตนเห็นว่าคนที่ถูกยิงกระโดดลงไปในน้ำแล้ว ตนจึงไปดึงพ่อกลับมา เพราะว่าตอนนั้นคือคนมันชุลมุนมากแล้วเขาถ่ายคลิป ตนก็บอกพอ่ว่าพอแล้ว และพ่อก็เดินขึ้นรถ และแม่ตนก็สลับไปฝั่งคนขับ และขับรถออกจากที่เกิดเหตุ ไปส่งตนและน้อง ๆ เข้าเรียน ตนก็อยากให้พ่อกลับมามอบตัว ไม่ต้องหนี เพราะว่าเรื่องนี้พ่อไม่ได้ผิดอะไรอยู่แล้ว พ่อทําไปเพราะว่าพ่อทำเพื่อป้องกันครอบครัวแล้วก็ป้องกันตัว ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้ เวลามีเรื่องพ่อจะใจเย็นมาก จะไม่อะไรเลย ตนก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น อยากให้สังคมเห็นใจครอบครัวตนบ้าง
