อดีพนักงานต้อนรับถูกเอเจนซีหาคู่หลอกให้จดทะเบียนชาวจีน

View icon 106
วันที่ 17 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อดีตพนักงานต้อนรับสาวถูกเอเจนซีหาคู่ หลอกให้จดทะเบียนสมรสกับชาวจีน แต่กลับมีชีวิตลำบาก จึงหนีกลับไทย ก็ถูกเอเจนซีบังคับให้กลับไป ต้องจ่ายค่าปรับ 350,000 บาท เชื่อเป็นขบวนการค้ามนุษย์

วันนี้ ( 17 ก.ย.67 ) อดีตพนักงานต้อนรับสาว อายุ 24 ปี ร้องทุกข์นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเอเจนซีหาคู่หลอกให้จดทะเบียนสมรสกับชายชาวจีน อ้าวโปรไฟล์หนุ่มนักธุรกิจไฮโซ แต่เมื่อไปถึงกลับต้องอยู่ในบ้านเก่าๆ มีชีวิตอย่างยากลำบาก จึงหลบหนีกลับไทย แต่กลับถูกเอเจนซีบังคับให้กลับไป มิฉะนั้นต้องจ่ายค่าปรับ 350,000 บาท จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการค้ามนุษย์

ผู้เสียหายเล่าว่า มีคนแถวบ้านที่เคยไปแต่งงานกับคนจีนก่อนหน้านี้ เป็นเอเจนซีติดต่อมาแนะนำว่าหากแต่งงานกับคนจีนชีวิตจะดี แนะนำนักธุรกิจชายชาวจีนอายุ 34 ปี ร่ำรวยให้รู้จัก โดยได้ลองพูดคุยกันผ่านวีแชตก่อน อีกฝ่ายก็บอกว่ามีคอนโดหรูกลางกรุง มีฟาร์ม จึงคิดว่าสามารถเลี้ยงดูได้ ก่อนจะตัดสินใจบินไปแต่งงานที่จีน แต่เมื่อไปถึงมีแฟนของเอเจนซีมารับ และขับรถขึ้นเขาไปที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี บ้านที่ไปถึงเป็นบ้านเก่าบนเขา พร้อมฟาร์มปศุสัตว์ ไม่ใช่คอนโดหรูใจกลางเมือง โดยฝ่ายชายอ้างว่าเป็นฤดูเก็บเกี่ยว ต้องขึ้นเขามาช่วยแม่ทำงาน ให้ทนอยู่ แล้วจึงจะกลับไปอยู่ในเมือง และได้จดทะเบียนสมรสกัน ระหว่างนั้นตนเองต้องอยู่อย่างยากลำบาก เพราะน้ำมีให้ใช้อย่างจำกัด เพียง 1-2 ลิตรต่อวัน ไม่พอจะอาบน้ำ ต้องเทน้ำในกะละมังและเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทน เวลาจะสระผมก็ต้องลงเขาไปสระในเมืองอาทิตย์ละครั้ง ห้องน้ำเป็นหลุม เคยบอกเอเจนซีว่าจะขอกลับ เพราะฝ่ายชายไม่ตรงปก ไม่เป็นตามที่เอเจนซีบอก แต่เอเจนซีและฝ่ายชาย ไม่ให้กลับ โดยฝ่ายชายบอกว่าจ่ายเงินให้เอเจนซีไปแล้ว 800,000 บาทเพื่อหาสาวไทยไปอยู่ด้วย ไม่พอเลี้ยงครอบครัวหรือถึงจะกลับ ซึ่งตนเองและครอบครัวได้รับเงินจากเอเจนซีแค่ 90,000 เท่านั้น ตนเองอยู่ไม่ไหวตัดสินใจวิ่งหนีลงเขาเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน จ้างให้ขับรถพาไปส่งในเมือง ก่อนจะต่อรถบัสอีก 4 ชั่วโมงไปที่สนามบิน และขึ้นเครื่องบิน 2 ไฟล์ท บินกลับไทย โดยใช้เงิน 90,000 ที่เอเจนซี่โอนมาให้เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางกลับ

เมื่อถึงประเทศไทย ได้บอกเรื่องราวกับเอเจนซี แต่กลับถูกบังคับให้กลับไป หากไม่กลับก็ให้หาเงินมาจ่ายค่าเสียหายที่หนีกลับมา รวม 350,000 บาท และถูกเอเจนซีส่งคนตามไปข่มขู่ครอบครัวให้ส่งตนกลับไป หรือหาเงินมาคืน บังคับให้เซ็นเอกสารสัญญากู้เงิน ขู่ว่าจะฟ้องร้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ตนเองคิดว่าหากตนเองกลับจีนไปก็คงไม่ได้กลับมาอีกแน่ จึงอยากเตือนเป็นอุทาหรณ์ และตนเองทราบว่าเคยมีหญิงที่เอเจนซีส่งไปแต่งงานกับคนจีนคนอื่นถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว

ด้านนายเอกภพ บอกว่า จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. ให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะเอเจนซีมีการเรียกรับเงิน 800,000 บาทจากชาวจีน เพื่อจัดหาคนไทยไปแต่งงานด้วย และขอให้สาว ๆ ที่ชื่นชอบคนจีน หรือ สาย จ. อยากให้ดูเคสนี้เป็นตัวอย่าง เพราะเคยมีผู้เสียหายอีกคนที่มาปรึกษาสายไหมต้องรอดก่อนหน้านี้ ไปแต่งงานกับคนจีนและมีลูกเป็นผู้หญิง ทำให้อีกฝ่ายชายไม่พอใจ ถูกทุบตี ขออย่าให้คนไทยหลงเชื่อ