สภาพอากาศในทวีปยุโรปแปรปรวนหนัก โดยพื้นที่ยุโรปตอนกลางเผชิญน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ขณะที่ยุโรปตะวันตกเกิดไฟป่าลุกลามรุนแรง เผาบ้านเรือนประชาชนไปแล้วหลายหลัง
วันนี้ (17 ก.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศโปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก ต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่อยู่อาศัย เมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย. 67) ที่ผ่านมา ขณะที่พื้นที่อื่น ๆ ในยุโรปกลาง เริ่มทำความสะอาด หลังจากเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ซึ่งล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 17 คนแล้ว และต้องอพยพออกจากพื้นที่อีกหลายหมื่นคน
โดยพื้นที่ชายแดนระหว่างสาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์ได้รับผลกระทบหนัก หลังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สะพานบางแห่งพังถล่ม รถยนต์และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดยที่เมืองลิโตเวล ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมของสาธารณรัฐเช็ก พื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ จมอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 1 เมตร
ขณะทีทางประเทศฮังการี และประเทศสโลวาเกีย เร่งเสริมกระสอบทรายกั้นริมฝั่งแม่น้ำ “ดานูบ” แล้ว เพื่อเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น พร้อมระดมกำลังทหารเตรียมให้ความช่วยเหลือประชาชนถึง 12,000 นาย
ขณะที่หลายประเทศในแถบยุโรปตะวันตก กำลังเผชิญกับไฟป่ารุนแรง โดยเฉพาะที่โปรตุเกสพื้นที่ตอนกลาง และตอนเหนือ เผชิญไฟป่าลุกลามหนัก และยังไม่สามารถควบคุมได้ มีบ้านเรือนประชาชนถูกไฟเผาผลาญไปอย่างน้อย 4 หลัง และยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอีก 20 หลัง
ทางการโปรตุเกสได้ร้องขอให้สหภาพยุโรป ส่งเครื่องบินดับเพลิงมาช่วยเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,500 นายกำลังต่อสู้กับไฟป่าอย่างน้อย 15 จุด ท่ามกลางอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส
