เจาะประเด็นข่าว 7HD - เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในตลอด 2 วัน ที่ต้องการสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลก็จะมีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ และออกข้อสั่งการต่างๆ ได้
โดยการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในหลายด้าน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยประเด็นหลัก ๆ คือ การมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การสร้างความปรองดองในสังคม และการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการดำเนินงานใน 10 นโยบายเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, การผลักดันสถานบังเทิงครบวงจร, การช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งใน และนอกระบบ รวมไปถึงการปราบอาชญากรรมออนไลน์
โดยตลอดทั้ง 2 วัน ฝ่ายค้านพยายามอภิปรายให้เห็นชัด ๆ ว่า นโยบายของรัฐบาล แตกต่างจากตอนหาเสียง ไม่ตรงปก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยไม่มีความมั่นคงในชีวิต อีกทั้งนโยบายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา พร้อมกับหวังว่า ประเทศไทยจะไม่มี "นายกฯ ม้า" ที่ถูกนายกฯ ตัวจริงควบคุมอยู่ โดย 3 ปีนับจากนี้ของรัฐบาล ก็จะเป็นบทพิสูจน์ว่าจะเจ๊า หรือจะเจ๊ง
ขณะที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างนายสุทิน คลังแสง ที่คัมแบ็กกลับมาทำงานที่สภาฯ ซึ่งถือว่าฝีมือยังไม่ตก สมฐานะอดีตดาวสภาฯ ลุกขึ้นตอบโต้ฝ่ายค้านว่า นโยบายรัฐบาล นายกฯ อิ๊งค์ กับนายกฯ เศรษฐานั้นไม่เหมือนกัน เพราะหากดูที่บุคคลิก ผู้นำประเทศนั้นเป็นคนละเจนเนเรชัน คนละเพศ เพราะฉะนั้นการบริหารงาน และการตัดสินใจ ก็น่าจะไม่เหมือนกัน แต่ที่ท็อปฟอร์มสุด ๆ คือนายสุทิน ได้แนะนำคณะรัฐมนตรีว่า อย่าไปถือสา ในบางคำแนะนำที่มาจากคนที่ไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศ
อย่างไรก็ตามการอภิปรายตลอด 2 วัน มาเสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 01.10 น. ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ขอบคุณสมาชิกทุกคน ที่ได้ร่วมกันอภิปรายแสดงความเห็น ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะ แม้ว่าการอภิปรายบางอย่างจะมีการเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง และจินตนาการไปไกลเกินกว่าความเป็นจริงบ้าง
พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่าการดำเนินนโยบายของรัฐบาล จะช่วยสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน
