เด็จพี่ ท้าชน เรืองไกร

View icon 115
วันที่ 12 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พร้อมชน! เด็จพี่ ร้อง ป.ป.ช.เอาผิด “บิ๊กป้อม” ฐานเรียกรับเงิน ผิดจริยธรรมร้ายแรง ให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัย

วันนี้ (12 ก.ย.67) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นเอาผิดพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และสส.บัญชีรายชื่อ ฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐ กระทำผิดรัฐธรรมนูญในเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 172 ,173 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 รวมทั้งประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงหลุด “เรียกรับเงิน” ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 67 โดยขอให้ป.ป.ช.พิจารณาไต่สวน ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงนักการเมืองดำเนินคดีฐานเรียกรับเงิน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ออกมา ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการสนทนาระหว่างคน 2 คน โดยคนหนึ่งมีเสียงคล้ายพลเอกประวิตร พูดคุยกับ “นายโอ๋” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพฤติการณ์ทวงถาม และเรียกรับเงิน ถือเป็นการกระทำที่ผิดทั้งทางกฎหมาย และจริยธรรมนักการเมือง โดยพลเอกประวิตร ในฐานะที่เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ จะต้องประพฤติตนโดยถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด

นายพร้อมพงศ์ ตั้งข้อสังเกตว่า “เงิน” ที่พลเอกประวิตร ทวงถามจาก “นายโอ๋” ไม่ได้เป็นนิติกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีมูลหนี้ใด ๆ ต่อกันจริง จึงส่อว่าเป็นเงินที่ไม่มีมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมายที่พลเอกประวิตรจะมีสิทธิทวงถามตามกฎหมายและ “นายโอ๋” ต้องชำระหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งเงินดังกล่าว จึงส่อไปในลักษณะที่เป็นเงินหรือของกำนัลที่ได้รับจากแหล่ง หรือบุคคลที่กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ตามมาตรา 173 เจ้าพนักงานรัฐผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนถึงสี่แสนบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง