หนุ่มชาวนางงเป็นไก่ตาแตก ทำนากับพ่อตั้งแต่เด็ก ไม่เคยสมัครงาน แต่มีชื่อในระบบประกันสังคม

View icon 239
วันที่ 11 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (11 ก.ย. 67) นายภาณุวัฒน์ หัดประโคน อายุ 25 ชาวบ้านบ้านตะแบก หมู่ 1 ต.โคกย่าง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมครอบครัว เดินทางไปพบ พ.ต.ท ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ประโคนชัย เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หลังจากมีชื่อไปปรากฏเป็นผู้ประกันตนอยู่ในระบบของประกันสังคม โดยเจ้าตัวไม่เคยไปสมัครที่ไหนมาก่อน ไม่เคยทำงานในระบบโรงงานมาก่อน มีอาชีพทำนาทำสวนเป็นหลักกับครอบครัวมาตั้งแต่ยังเล็ก

นายภานุวัฒน์ เดเผยว่า ตนมีอาชีพทำนา ไม่เคยออกไปทำงานต่างจังหวัด หรือแม้ในตัวจังหวัดบุรีรัมย์มาก่อน รู้สึกตกใจเมื่อทราบว่าตัวเองมีชื่ออยู่ในประกันสังคม เกรงว่าในวันข้างหน้าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองโดยที่ตนไม่ได้ทำก็เป็นได้ จึงมาลงบันทึกประจำวัน และเดินทางไปพบประกันสังคม

ขณะที่นายชีพ หัดประโคน อายุ 49 ปี พ่อของ นายภานุวัฒน์ บอกว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา ลูกชายปวดท้อง จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลประโคนชัย โดยได้ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับบริการรักษาฟรี 30 บาท แต่เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่ามีบัตรประกันสังคมแล้ว จึงตกใจมาก เพราะลูกชายมีอาชีพทำนา ทำสวนอยู่กับพ่อมาตั้งแต่ยังเล็ก ยืนยันลูกชายไม่เคยออกไปสมัครงาน และไม่เคยทำงานกับบริษัทหรือห้างร้านที่ไหนมาก่อน

นายชีพ บอกอีกว่า ตอนนี้ต้องการถอนชื่อของลูกชายออกจากประกันสังคม เกรงว่าจะมีผลกระทบในภายภาคหน้า ส่วนเงินที่คาดว่าจะได้จากเงินสมทบของระบบประกันสังคม ตนจะไม่ขอรับ เพราะไม่ใช่เงินของลูกชาย อยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ถ้าในอนาคตลูกชายกลายเป็นคนนอกระบบทะเบียนราษฎร์ ใครจะรับผิดชอบ

ต่อมาครอบครัวนายภานุวัฒน์ ได้เดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง เพื่อต้องการหาข้อมูลที่มาที่ไป ว่าทำไมชื่อจึงไปปรากฎในระบบประกันสังคมได้

ด้าน น.ส.ณัฐกานต์ ทินนัง รักษาการหัวหน้าสำนักงานประกันสังคมบุรีรัมย์ สาขานางรอง และ น.ส.มนต์นภา กันโท นักวิชาการแรงงานชำนาญ ได้ตรวจสอบข้อมูล พร้อมกับชี้แจงให้นายภานุวัฒน์ ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าชื่อของนายภานุวัฒน์ เข้าสู่ระบบประกันสังคมเมื่อปี 2562 หรือประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา มีการแจ้งลาออกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 66 และเอาชื่อแจ้งเข้าอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 มาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ประกันสังคมและฝ่ายนิติกร จะเข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อ.ประโคนชัย ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการสวมสิทธิ โดยจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และรู้ผลภายใน 1-2 วันนี้