อนุทิน ฟังคลิปหลุดลุง! เชื่อเป็นคลิปเก่า

View icon 64
วันที่ 11 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อเช้ามีรายการทีวีรายการหนึ่งได้เปิดเผยคลิปเสียงหลุดคล้ายเสียงลุงคนหนึ่ง คล้าย ๆ กับเสียงลุงป้อม มีการพูดถึงประเด็นต่าง ๆ ทั้งขอเป็นนายกฯ และการขอแบ่งเงินทอง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่า เป็นคลิปเสียงจริงหรือไม่ ขณะที่ นายอนุทินฟังคลิปนี้แล้วในห้องประชุมสภา เชื่อว่า เป็นคลิปเก่า

อนุทิน ฟังคลิปหลุดลุง! เชื่อเป็นคลิปเก่า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเปิดเผยคลิปเสียงหลุดของลุง ซึ่งคล้ายคลึงกับเสียงของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า วันนี้มีคนส่งคลิปมาให้ จึงนั่งฟังคลิปดังกล่าวในห้องประชุมสภา แต่ฟังไม่ถนัด พยามหาอยู่ว่า เป็นเสียงใครในกระทรวง แต่ยังหาไม่เจอ คงต้องไปหาห้องเงียบ ๆ เมื่อสักครู่อยู่ในห้องประชุมสภา ห้องใหญ่ฟังไม่รู้เรื่อง

เมื่อถามว่า มีการเรียกตำแหน่งกันจริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฟังจากที่คนอื่นโทรมาเล่าให้ฟัง ยืนยันว่า ไม่มีในสมัยนี้ เป็นคลิปเก่า แต่ยังไม่ได้ฟังด้วยตัวเองแบบช้า ๆ คิดว่า แค่นี้คงไม่ได้ทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับเสียงตัวเอง
ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า ในคลิปเสียงที่เผยแพร่ออกมา เป็นเสียงของตัวเอง สมัยพลเอกประวิตร กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคงและดูแลกระทรวงมหาดไทย เป็นการรายงานเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเสนอชื่อแต่งตั้ง นายขจร ชวโนทัย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กับ นายอรรถษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงเสนอแต่งตั้งเพื่อเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่ง พลเอกประวิตร ต้องให้ความเห็นชอบจึงต้องนำเรียน ซึ่งท่านก็เมตตาไม่ก้าวก่าย ให้ความเห็นชอบให้เสนอเข้า ครม.เพื่อเห็นชอบ เสนอรายชื่อเพื่อทรงกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งฯ ตามที่ ครม.เสนอ

แฉคลิปเสียงคล้ายลุง ขอนั่งนายกฯ
สำหรับคลิปหลุดเสียงคล้ายลุงรายหนึ่งที่คล้ายกับเสียงพลเอกประวิตร ถูกเปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง มีทั้งหมด 4 คลิป คลิปแรกอ้างว่า มาจากสนทนาของผู้ชาย รวม 4 คน โดยเสียงที่คล้ายลุง บอกกับคนที่เหลือว่า "ผมเป็นรอง ทำงานให้กับท่านนายกฯ มานาน ทำสำเร็จหลายเรื่อง ต่อไปนี้ผมอยากจะขอให้ประชาชนให้ผมได้ลองนั่งเบอร์ 1 ดูบ้างนะ"

คลิปที่ 2 เป็นการสนทนาของผู้ชาย 2 คน เป็นเสียงลุงคุยกับชายชื่อ โอ๋ โดยลุงโวยว่า จะให้ออกจากหัวหน้าพรรคเหรอ ไม่มีออกเลยนะ มึงจำไว้ ขณะที่ชายชื่อ โอ๋ บอกว่า ผมไม่ได้พูดครับนาย จากนั้นลุงยังถามถึงเรื่องการแบ่งเงินแบ่งทองด้วย บอกว่า รับเงินแล้วไม่จ่ายหรือไง โอ๋ก็บอกว่า "ผมไม่ทราบครับนาย"

ส่วนคลิปที่ 3 เป็นเสียงสนทนาของผู้ชาย 2 คน คล้ายเป็นการรายงานให้อีกฝ่ายทราบ เรื่องการจัดทัพของกระทรวงหนึ่งย่านคลองหลอด ซึ่งคลิปนี้ต่อมาปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า เป็นคลิปเสียงตัวเองจริง

และคลิปที่ 4 เป็นเสียงสนทนา 2 คน ระหว่างลุงกับคนในพรรคอีกรายหนึ่ง เรื่องการยื่นร้องยุบพรรคการเมืองหนึ่ง

สามารถ ป้องไม่ใช่เสียง ลุงป้อม เชื่อเป็นเอไอ
ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายการหนึ่ง เปิดเผยคลิปเสียงลุง เผยแพร่ออกมานั้น ว่า ไม่ทราบว่า เป็นคลิปหลุดหรือคลิปตั้งใจปล่อยบ แต่เทคโนโลยีวันนี้ไปไกลมาก ไม่ว่า จะเป็นการปลอมเสียงหรือทำคลิปเสียง เช่น มีคลิปลุงป้อมคัฟเวอร์ร้องเพลง เสียงชัดเหมือนลุงป้อมเป๊ะ

แต่ปรากฏว่า เมื่อมีคลิปเสียงสนทนา ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนอัดและใครเป็นคนปล่อยคลิป แต่กำลังจะทำให้เข้าใจว่า เป็นเสียงของ พลเอกประวิตร มองว่าไม่เป็นธรรมกับ พลเอกประวิตร ซึ่งกระบวนการสืบสวนสอบสวนมีอยู่แล้ว ดังนั้น คลิปที่ออกมาในสื่อ ยังเชื่อว่า ไม่ใช่เสียงของพลเอกประวิตร และการดิสเครดิตทางการเมืองมีอยู่ทุกวัน เชื่อว่า พลเอกประวิตรจะไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ แต่คิดว่า บ้านจันทร์ส่องหล้า น่าจะมีคลิปที่ประชาชนให้ความสนใจมากกว่าบ้านป่าฯ

บิ๊กป้อม โต้ไม่ใช่เสียงตัวเอง ยันเป็นคลิปเสียงปลอม
ขณะที่ พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่เสียงการพูดคุยของตัวเอง เพราะไม่เคยพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว จึงเชื่อมั่นว่า เป็นคลิปเสียงปลอมที่ทำขึ้นจากเอไอที่จะเห็นว่าทำลอกเลียนแบบได้เสมือนจริง ทั้งเสียงและภาพ

การนำคลิปเสียงออกมาสู่สาธารณะครั้งนี้ ควรตรวจสอบก่อนเผยแพร่ วอนให้สื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือ หลงเชื่อนักการเมืองที่ไร้จริยธรรม ที่สร้างเรื่องมา ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นการใช้วิธีชั่วร้ายเก่ามาทำลายระบอบประชาธิปไตย การกระทำที่เกิดขึ้น ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทำลายพรรคพลังประชารัฐ

บ้านรัตนเศรษฐ-อดีต สส.แห่ลาออก พปชร.
พรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เผชิญแค่ปัญหาคลิปเสียง เพราะยังคนในพรรคทยอยออกจากอีก หลังจาก มีกระแสข่าวว่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตระกูลรัตนเศรษฐ และอดีต สส. ลาออกจากพรรคจำนวนมาก เพราะไม่พอใจนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

สำหรับครอบครัวรัตนเศรษฐ ที่ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ด้แก่ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต สส.นครราชสีมา ภรรยานายวิรัช รัตนเศรษฐ นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ อดีต สส.นครราชสีมาและน้องภรรยานายวิรัช นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต สส.นครราชสีมา ลูกชายนายวิรัช

นอกจากนี้ยังมีอดีต สส.และสมาชิก บางรายที่ลาออกจากสมาชิกพรรค เช่น นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ อดีต ส.ส.ยะลา พรรคพปชร, นายศิริพงษ์ รัศมี อดีต ส.ส.กทม. , นายพรชัย อินทร์สุข อดีต ส.ส.พิจิตร พรรคพปชร. เช่นเดียวกับ ผู้สมัคร สส.ของพรรคอีกหลายคนที่ยื่นลาออก ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับต้น ๆ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 อาทิ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ จังหวัดสงขลา, นายเอกรัฐ พลชื่อ จังหวัดร้อยเอ็ด, นางศรัณยา สุวรรณพรหม จังหวัดหนองบัวลำภู, นางสาวณมาณิตา กลับบ้านเกาะ จังหวัดสมุทรสาคร

สามารถ ชี้โอกาสดีบ้านใหญ่ลาออก เปิดทางคนรุ่นใหม่
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่กระแสข่าวว่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตระกูลรัตนเศรษฐ ลาออกจากพรรคจำนวนมาก เพราะไม่พอใจนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ว่า เหมือนนักฟุตบอล มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ได้ปรับโครงสร้างในการทำงาน เพราะการที่คนเก่าออกก็เปิดทางให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาทำหน้าที่บ้าง

ส่วนที่มีคนไม่ชอบนายไพบูลย์นั้น เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละคน อย่าเอาความคิดเห็นของเราไปใส่หัวคนอื่น และไม่ควรเอาความคิดของคนอื่นมาใส่หัวเราเช่นเดียวกัน ส่วนตัวทุกคนเคารพนายไพบูลย์ เพราะที่ประชุมพรรคเลือกนายไพบูลย์เป็นเลขาธิการคนเดียว ไม่มีการเสนอคู่แข่ง และเสียงก็มีมติอย่างชัดเจนที่เลือกนายไพบูลย์

กกต.สั่งฟัน นายกเบี้ยว ปมจัดเลี้ยงช่วย ชาญ
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี ให้ดำเนินคดีอาญาแก่ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี 2 ข้อหา คือ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (3) (4) และมาตรา 66 ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563

เนื่องจาก นายกฤษฎา ได้จัดเลี้ยง และงานมหรสพ ที่มีส่วนจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานีนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงสั่งดำเนินคดีอาญากับนายกฤษฎา และสั่งเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใหม่ ซึ่งจะจัดการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 22 กันยายน

ซึ่ง นายชาญ ที่ได้ใบเหลือง ยังสามารถลงสมัครได้ในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นอีกครั้ง โดยผู้ลงสมัครทั้ง 4 คน ยังใช้หมายเลขเดิม ไม่มีการเปิดรับสมัครใหม่ เนื่องจาก กกต. ยังไม่ได้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ