สนามข่าว 7 สี - ข้าวของที่มีคุณค่าทางใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน ในมุมมองของคนที่เป็นเจ้าของก็ย่อมต้องดูแลให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ
เจ้าของรถกระบะ นำรถคันโปรดไปเข้าอู่ทำสีกับคนรู้จักกัน ประเมินระยะเวลาซ่อมแบบไม่เร่งรัดให้ไปเลย คือ 1 ปี ผ่านไป 3 ปี นอกจากรถจะยังไม่ได้ทำสีแล้ว จากรถที่วิ่งไป กลายเป็นซากรถ
สภาพรถกระบะคันโปรดของนางสาวณาราญา แทบจะเรียกได้ว่าเป็นซาก หรือ เศษเหล็ก เลยก็ว่าได้ ส่วนหัวเก๋งด้านหน้า ฝากระโปรง บังโคลน ประตู และหลังคาเก๋ง ถูกสนิมจับเขรอะ กระจังหน้าหายไป รวมถึงไฟหน้า และกันชน
ส่วนด้านหลัง กระบะหาย เหลือแต่โครงรถเปลือย ๆ เธอบอกว่าตอนนำรถเข้าไปซ่อมทำสี รถขับได้ปกติ แต่ตอนนี้จะขับกลับบ้าน หรือนำไปซ่อมที่อื่น ขับไม่ได้ ต้องจ้างรถลากนำไปจอดยังอู่แห่งใหม่
เธอนำรูปภาพรถคันเดียวกัน ก่อนนำไปทำสีให้ดู สภาพรถแม้จะค่อนข้างเก่ามาก แต่ยังขับไปไหนมาไหนได้ เมื่อ 3 ปีก่อน เธอนำไปเข้าอู่ทำสี ที่บ้านหนองกรับ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง หวังให้รถกลับมาดูดีขึ้น ก็ตกลงค่าทำสีกันเป็นเงิน 8,500 บาท
ระหว่างนั้นมีการแจ้งอัปเดตขั้นตอน ตั้งแต่ลอกสีเก่า เจ้าของอู่ ส่งไลน์มาบอกว่าจะเปลี่ยนกระบะท้ายมือสอง สภาพดีให้ รวมถึงจะเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สภาพใช้การไม่ได้แล้วอีกหลายชิ้น
เธอก็ไม่ว่าอะไร รอให้เสร็จแล้วค่อยสรุปค่าใช้จ่ายอีกที แต่ผ่านไป 1 ปี ไปดูรถ พบว่ารถอยู่ในสภาพที่ให้ดูไปตอนต้น ให้เวลาอู่จัดการให้เรียบร้อย ก็ยืดเยื้อออกไปอีกจนเข้าปีที่ 3 ก็เลยเจรจาขอค่าทำสีคืน บอกว่า ถ้าไม่มีเงินก้อนจะผ่อนให้ 500-1,000 บาท ก็ได้ แต่เจ้าของอู่ ก็เบี้ยวอีก
เธอบอกว่า ไม่ขอทน เข้าแจ้งความเจ้าของอู่แล้ว ตำรวจ บอกว่า เข้าข่ายเป็นการยักยอกทรัพย์ แต่ในเบื้องต้นจะเรียกเจ้าของอู่มาเจรจากันก่อน หากตกลงกันไม่ได้ และเจ้าของรถจะดำเนินคดี ก็ว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป
