เกษตรกรบ้านนาเพียง จ.ขอนแก่น เปลี่ยนจากแปลงผักเป็นสวนกล้วยหอมทอง สร้างรายได้ที่ กิโลกรัมละ 42 บาท

View icon 90
วันที่ 10 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (10 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอ่อนสี อายุ 62 ปี เจ้าของสวนกล้วยหอม พาผู้สื่อข่าวไปดูสวนกล้วยหอมทอง ที่ตนปลูกไว้ จำนวน 1,200 ต้น บนพื้นที่กว่า 3 ไร่  ซึ่งกำลังออกผลผลิต ใกล้จะตัดหวีขาย หลังช่วงนี้กล้วยหอมทอง ขายได้ราคาดี รวมทั้งหนอพันธุ์ ที่กำลังทยอย แตกหนอออกจากลำต้น เกษตรกรต้องขุดมาวางขาย สร้างรายได้ดีในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านแวะซื้อไปทำพันธุ์ต่อเป็นจำนวนมาก

นางอ่อนสี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ปลูกผักขายมานานนับ10 ปี โดยผักที่ปลูก คือ กุยช่าย พริก และพืชผักตามฤดูกาล  แต่เพราะพืชผักเหล่านั้น ต้องใช้สารเคมีและน้ำจำนวนมาก  ยากต่อการดูแล และเป็นอันตรายต่อตนเอง บางช่วงขณะกำลังจะเก็บขาย  ก็มาเหี่ยวเฉาแห้งตาย  ตนเองจึงหันมาปลูกกล้วยหอมทองขาย สร้างรายได้ดี  ซึ่งปลูกมาได้ประมาณ  3-4 ปีแล้ว ปลูกช่วงแรก เป็นช่วงโรคโควิดระบาดพอดี ทำให้กล้วยขายไม่ค่อยได้ เน่าเสียทิ้งไปเป็นจำนวนมาก

โดยนางอ่อนสี เล่าต่ออีกว่า กล้วยหอมทองที่ปลูกนอกจากจะขายผลกล้วยแล้ว  ยังสามารถตัดปลีกล้วยขาย ในราคาปลีละ 10 -15 บาท ด้วย แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่

นอกจากนี้หน่อพันธุ์ กล้วยหอมทอง ยังสามารถขายได้  โดยหน่อกล้วยที่ผ่านการเพาะชำ เพื่อให้รากงอกพร้อมปลูก จะขายราคาหน่อล่ะ 60 บาท ซื้อ 3 หนอ ขาย 100 บาท โดยมีลูกค้าสนใจซื้อไปปลูก จนไม่พอขาย เพราะกล้วยหอมทอง เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก เพียงแต่ช่วงหน้าฝนนี้ กล้วยได้น้ำมาก ต้นใบจะเหลือง เจริญเติบโตช้า และจะต้องดูแลเรื่องเชื้อรา

โดยอาจจะมีการฉีดสารเพื่อฆ่าเชื้อราเดือนละ 1 ครั้ง  แต่หน้าที่ปลูกกล้วยได้ผลดี คือช่วงหน้าร้อน โดยใช้วิธีรดน้ำให้พอดี  จะโตกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปีนี้ยอมรับว่า กล้วยราคาดี โดยฉพาะกล้วยหอมทอง ราคากิโลละ 30-35  บาท  ยิ่งช่วงที่กล้วยขึ้นราคา ขายได้ถึง กก. ละ 42 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง