สิบตำรวจตรี โต้กลับ ไม่ได้บังคับนักศึกษาสาวปี 4 ให้มีเพศสัมพันธ์ เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ ส่วนเงิน 10,000 บาท นักศึกษาให้มาเอง
วันนี้ ( 10 ก.ย.67) ความคืบหน้า กรณี นศ.สาวชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมาแล้วขับ และเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถเก๋ง ย่านคลองสี่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเรียกประกัน และไปที่ สภ.ธัญบุรี ระหว่างนั้นมีตำรวจยศ ส.ต.ต. เรียกเข้าไปในห้อง แค่ 2 คน และได้ให้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ สูง 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนเรียกลงไปคุยที่ห้องน้ำชั้นล่าง เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด พร้อมกับยื่นข้อเสนอว่า จะให้ใช้ผลเป่าแอลกอฮอล์ที่ค่าเป็น 0 ให้กับประกันรถยนต์ จะได้ไม่ถูกดำเนินคดี แต่ต้องจ่ายเงิน 10,000 บาท ถ้าไม่รับข้อเสนอต้องติดคุก และถูกปรับ 20,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นักศึกษาสาว กับ ส.ต.ต. เนื้อหาใจความว่า นศ. สาว พยายามสอบถามเรื่องใบผลเป่าแอลกอฮอล์ จะส่งให้ตนได้เมื่อไหร่ สิบตำรวจตรี ถามว่าถ้าได้ผลตรวจไปแล้วพี่ได้อะไร มีอะไรมาแลก นศ.บอกว่า พี่ได้หนู ได้เงินหนูไปแล้ว แต่หนูไม่ได้อะไรเลย สิบตำรวจตรี ยังพูดข่มขู่กลับ ว่าถ้าหนูโดนดำเนินคดีหนูแย่นะ หนูติดคุกนะ วันจันทร์ 2 ทุ่ม เจอกันที่คอนโดพร้อมใบ
ด้านสิบตำรวจตรี ออกมาโต้กลับว่า เรื่องเงิน 10,000 บาท นักศึกษาให้มาเอง ตนสงสารจึงเข้าไปช่วยคุยกับคู่กรณี และประกันรถให้ ยอมรับพาไปนั่งดื่มที่ผับจริง แต่ไม่ได้คุยเรื่องเงินเพื่อแลกไม่ถูกดำเนินคดีเมาขับ นักศึกษาให้ข่าวเหมือนว่าตนฝ่ายเดียว ตนไม่มีโอกาสได้พูด ขอยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ แต่รับไปส่งที่คอนโดจริง
ล่าสุด พ.ต.อ. กจิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ์ ผกก. สภ.ธัญบุรี เปิดเผยในรายการสนามข่าวออนไลน์ว่า ขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานทั้งภาพวงจรปิด และพยานหลักฐานแล้ว ที่สำคัญจากการสอบถามสิบตำรวจตรีนายดังกล่าวให้การยอมรับว่า มีการรับเงิน 10,000 บาทจากผู้เสียหายจริง และมีความสัมพันธ์กันจริงตามที่ผู้เสียหายให้การ แต่อ้างว่าเป็นเรื่องของการสมัครใจไม่ได้มีการขู่บังคับแต่อย่างใด
ซึ่งสอดคล้องกับไทม์ไลน์ ที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลไว้ เพียงแต่ผู้เสียหายยืนยันว่า เธอไม่ได้สมยอม ถูกบังคับให้จ่ายเงิน 10,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ ที่สำคัญถูกตำรวจนายนี้บังคับข่มขืน แบบไม่ป้องกัน แถมยังถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์อีกด้วย
เบื้องต้นมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทางวินัย ระหว่างนี้ให้สิบตำรวจตรีนายนี้ ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องประชาชนก่อน ส่วนคดีอาญาอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง โดยขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผิดไปตามผิดถูกไปตามถูก ขอให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
