ศิริกัญญา หวังรัฐบาลแบ่งจ่าย 10,000 ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะจะไม่ตรงตามที่หาเสียง

View icon 116
วันที่ 10 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศิริกัญญาหวังรัฐบาลแบ่งจ่าย 10,000 บาท เป็น 2 งวด จะไม่ใช่เรื่องจริง เพราะอาจไม่เป็นไปตามที่ได้หาเสียงเอาไว้ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะงบประมาณมีไม่เพียงพอ

10 กันยายน 2567 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส. พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณีที่นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผย ว่าโครงการดิจิทัล Wallet อาจจะมีการแบ่งจ่าย เงินให้กับประชาชนเป็น 2 งวด โดยหวังว่าจะไม่ใช่เรื่องจริง และ ยังรอคอยความชัดเจนจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงอยู่ หากในระยะ 2 จะต้องแจกให้ประชาชนอีก 30 ล้านคน คนละ 5,000 บาท อาจไม่เป็นไปตามที่ได้หาเสียงเอาไว้

นายสาวศิริกัญญา บอกว่า การที่รัฐบาลออกมาบอกว่าจะแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะงบประมาณมีไม่เพียงพอ สำหรับ 30 ล้านคนได้ เพราะตอนนี้มีเงินอยู่ในกระเป๋าเพียงแค่ 1.8 แสนล้านบาท เท่านั้น

ขณะเดียวกันยังไม่รู้ว่าระบบการชำระเงินจะเสร็จทันหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่ชัดเจนว่า 5,000 บาทแรกจะจ่ายผ่านเงินสดหรือกลไกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ดิจิทัล Wallet ดังนั้นจะเรียกโครงการนี้ว่าดิจิทัล Wallet ได้หรือไม่

ส่วนระยะที่ 2 อีก 5,000 บาทที่เหลือยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้เมื่อไหร่ เพราะงบประมาณปี 2568 คงไม่เพียงพอแล้ว ต้องเลื่อนไปจ่ายในปีงบประมาณ 2569 ซึ่งก็จะเริ่มในเดือนตุลาคม 2568 ทั้งหมดนี้ยิ่งคนในรัฐบาลออกมาพูดก็จะยิ่งสร้างความไม่ชัดเจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและกังวลว่าตกลงจะได้เงินหรือไม่และจะได้รูปแบบใด

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งเรื่องที่น่ากังวลก็คือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น จากเดิมที่รัฐบาลบอกว่าจะเป็นพายุหมุน ตอนนี้พายุกำลังลงเหลือเพียงแค่หย่อมความกดอากาศต่ำเท่านั้น ก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากอย่างที่โฆษณาเอาไว้ แล้วจะมีมาตรการอะไรที่จะเข้ามาเสริมเพื่อทำให้เศรษฐกิจโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

และความไม่แน่นอนของโครงการ  เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ตลอดเวลา ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน แม้ว่าในตลาดลงทุนจะถีบตัวสูงขึ้นก็ตามแต่ประชาชนรากหญ้าก็ยังรอคอยความหวังจากสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อตอนหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่เงิน 10,000 บาท แต่ยังเป็นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท รวมถึงปริญญาตรีเงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 บาทหลายคนก็ยังรอคอยอยู่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังค่อยค่อยจางหายไป ตามระยะเวลาที่รัฐบาลทำงานอยู่ และจะกระทบไปถึงความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยหรือการลงทุนของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องไม่ลืมฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนในระดับรากหญ้าด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายภูมิธรรมพูด  ไม่ได้ระบุไว้ในเล่มร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 12 และ 13 กันยายนนี้ ระบุไว้เพียงว่าจะทำโครงการดิจิทัล Wallet เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเพื่อภาคประชาชน คำว่า 10,000 บาทหายไปซึ่งต่างจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน แต่ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าจะยังคงได้อยู่แต่อาจเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นแบ่งจ่าย