ร้องถูก ตร. บังคับร่วมเพศ เรียก 1 หมื่น แลกไม่ดำเนินคดี

View icon 194
วันที่ 9 ก.ย. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นักศึกษาสาวปี 4 ร้อง "ปวีณา" ถูกตำรวจยศ "ส.ต." ตำแหน่งสิบเวร สภ.ธัญบุรี บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ แถมเรียกเงิน 10,000 บาท แลกไม่ดำเนินคดี

นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังเธอถูกตำรวจยศ สิบตรี สิบเวร สภ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เรียกเงิน 10,000 บาท และบังคับให้มีเพศสัมพันธ์แลกกับการไม่ดำเนินคดีเมาแล้วขับ โดยข่มขู่ถ้าไม่ยอมทำตามจะต้องติดคุก และเสียค่าปรับ 20,000 บาท เมื่อยินยอมทำตามแต่ตำรวจนายดังกล่าวยังไม่ยอมจบ ติดต่อมาแบล็กเมล์เพื่อจะให้ไปนอนด้วยอีก จึงทนไม่ไหวเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

นางสาวเอ เล่าว่า ช่วง 23.00 น. คืนวันที่ 30 สิงหาคม หลังจากดื่มกับเพื่อนและกำลังขับรถกลับบ้าน เกิดไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งอีกคันที่ย่านคลองสี่ อำเภอธัญบุรี รถของตนและคู่กรณีเสียหายจึงได้เรียกประกันมาจัดการทั้งสองฝ่าย จากนั้นได้เดินทางไปที่ สภ.ธัญบุรี ส่วนคู่กรณีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ระหว่างอยู่ที่โรงพักตำรวจสิบเวรนายหนึ่ง ได้เรียกเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งมีตนกับสิบเวร เขาจะให้ตนเป่าแอลกอฮอล์ โดยเขาเป่าให้ดูก่อนปรากฎว่าขึ้นที่ 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นเขาก็ให้ตนเป่า ปรากฎว่าขึ้นที่ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อมีผลออกมา เขาเห็นว่าตนกลัวจะถูกดำเนินคดี จึงเรียกไปคุยที่หน้าห้องน้ำด้านข้างอาคารเพราะไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วเขาก็บอกว่า "จะให้เซ็นใบที่เป่าแอลกอฮอล์ไว้ทั้ง 2 ใบ แต่จะเอาใบที่เป็น 0 ให้กับประกันเพื่อที่รถของตนจะได้เคลมซ่อมด้วย แต่ต้องจ่ายให้เขา 10,000 บาท ถ้าไม่รับข้อเสนอตนก็จะติดคุก และถูกปรับ 20,000 บาท"

ตนกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงตกลงทำตาม เมื่อเซ็นใบเป่าแอลกอฮอล์ทั้ง 2 ใบแล้ว เขาก็ให้ตนเขียนข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอรโทรติดต่อ และให้ตนนั่งแท็กซี่กลับไปก่อน ซึ่งกว่าจะเสร็จเรื่องช่วงนั้นก็เป็นเวลา 02.00 น. ของวันที่ 31 สิงหาคมแล้ว วันนั้นตนยื่นเงินให้แต่เขายังไม่ได้รับแล้วบอกว่าจะติดต่อมารับตนไปลงบันทึกประจำวันอีกที

ต่อมาวันที่ 1 กันยายน เขาได้ขับรถกระบะส่วนตัวมารับตนที่คอนโดฯ ย่านรังสิต ก่อนจะพามาลงบันทึกประจำที่ สภ.ธัญบุรี โดยระบุว่ากรณีรถเฉี่ยวชนเกิดจากความประมาทของตน หลังเสร็จแล้วเขาก็ได้ขับรถพากลับมาส่ง โดยระหว่างทางเขาบอกว่าได้คุยกับร้อยเวร สารวัตร และผู้กำกับให้แล้วไม่มีปัญหา จากนั้นเขาได้จอดรถให้ตนลงไปกดเงินสด 10,000 บาทมายื่นให้ในรถ ตนจึงขอใบเป่าแอลกอฮอล์ที่ระบุ 103 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่ตนเซ็นเอาไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะเอามาดำเนินคดีกับตนอีก แต่เขาก็ยื้อไม่ยอมให้อีก

กระทั่งวันที่ 2 กันยายน ตนอยากได้เอกสารใบเป่าแอลกอฮอล์ เขาจึงนัดให้ไปหาที่ สภ.ธัญบุรี แต่พอไปถึงกลับถูกพาไปผับ โดยที่มีการจองโต๊ะไว้แล้ว ระหว่างที่นั่งกินเขาก็บังคับในชนแก้วแล้วดื่มให้หมดแก้วหลายครั้ง ซึ่งตนก็พยายามขอร้องให้เขาเอาใบเป่าแอลกอฮอล์ให้ เขาก็บอกว่า ต้องให้ตนยอมนอนกับเขาถึงจะคืนให้ คืนนั้นเขาจึงตามกลับมาที่คอนโดฯ และมีเพศสัมพันธ์ หลังมีเพศสัมพันธ์กันแล้วก็ยังไม่ยอมคืนใบเป่าแอลกอฮอล์ให้ บอกว่าที่ผ่านมาเขาต้องเก็บใบเป่าไว้ทุกใบ ไม่เคยให้ใครเลย

ผู้เสียหายเผยอีกว่า ตนเองเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว พอมาเจอเรื่องนี้ อาการกำเริบต้องไปพบแพทย์ นอนแอดมิดที่โรงพยาบาลถึง 3 วัน เมื่อกลับบ้านเขาก็ยังโทรมาหาบอกอีกว่า "จะมาหาที่คอนโดฯ" ตนเองสับสนและกลัวมากจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พา นางสาวเอ เดินทางไปที่ สภ.ธัญบุรี เพื่อแจ้งความกับ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี โดยท่านผู้กำกับระบุว่า จะรับเรื่องเพื่อสอบปากคำของผู้เสียหายให้รู้รายละเอียดทั้งหมดก่อน แล้วก็ดูเรื่องพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล หรือวัตถุพยานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคล เพื่อจะฟังก่อนว่ามีมูลหรือไม่ ถ้าได้ทุกอย่างครบแล้วก็จะมาดูว่าได้กระทำผิดในข้อหาอะไรบ้างแล้วก็จะได้ดำเนินการต่อไป

โดยตำรวจนายนี้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำวันเพื่อลงบันทึก ดูแลประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในโรงพัก และทำงานอยู่ที่ สภ.แห่งนี้ได้ประมาณ 2 ปี แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องประเภทนี้มาก่อน เบื้องต้นได้สอบถามตำรวจนายนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร ซึ่งจะต้องเรียกตัวมาพูดคุย หากผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งหากเป็นข้อเท็จจริง ความผิดดังกล่าว ก็ถึงขั้นสามารถออกจากราชการได้