ชายปริศนา บุกสาดน้ำกรดใส่เจ้าอาวาส ขณะกำลังบิณฑบาต

View icon 265
วันที่ 7 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทำอาตมาทำไม? ล่าชายชายปริศนา สาดน้ำกรดใส่เจ้าอาวาส ขณะกำลังบิณฑบาต ได้รับบาดเจ็บ จ.สมุทรปราการ

เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (6 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายธนเดช สู่ความดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในฐานะคณะกรรมการวัดว่า พระวินัยธรบัญชา (ไสว) ปุญญธโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดเอี่ยมประชามิตร (วัดแหลมฟ้าผ่า) ถูกมือดีสาดน้ำกรดใส่ขณะเดินบิณฑบาตจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์

โดยพระวินัยธรบัญชา (ไสว) ปุญญธโร เจ้าอาวาสฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น.ของวันที่ 22 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ขณะที่เดินบิณฑบาตอยู่ริมถนนภายในซอยวัดแหลมฟ้าผ่ากับเด็กวัด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก่อนถึงวัดประมาณ 1 กิโลเมตร ได้มีโยมผู้ชายได้ยืนรออยู่บนฟุตพาทเพื่อใส่บาตร จึงเดินเข้าไปรับโดยมีเด็กวัดยืนอยู่ด้วย ในระหว่างที่กำลังยืนให้พรอยู่ แต่สายตาได้เห็นชายวัยกลางคนถือถังพลาสติกสีเหลืองเดินเข้ามาหา ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นญาติโยมที่จะมาปล่อยปลาสะเดาะเคราะห์แต่จะให้สวดมาติกาบังสุกุลให้

แต่ยังไม่ทันจะให้พรชายคนที่ใส่บาตร  จู่ ๆ ชายคนที่เดินถือถังทางข้างหลัง ก็ราดใส่ตัวตนจนเปียกชุ่ม ซึ่งในขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นน้ำอะไร ก่อนที่เด็กวัดจะตะโกนร้องว่าทำอะไรใส่อาจารย์ ชายคนดังกล่าวตกใจจึงทิ้งถังไว้แล้วรีบวิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดข้างถนน ก่อนวกรถกลับหลบหนีออกไปทางปากซอย แต่ด้วยความที่รีบร้อน ชายคนดังกล่าวได้ถอดรองเท้าทิ้งไว้ ในระหว่างที่หันไปดูชายที่มาทำร้าย ร่างกายเริ่มปวดแสบปวดร้อนจนทนไม่ไหว จึงรีบถอดจีวรออกและให้เด็กวัดนำน้ำสะอาดมาราดรีบล้างออก ก่อนจะรีบกลับมาวัดเพื่อชำระล้างร่างกายและรีบเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

โดยแพทย์ระบุว่าน่าจะเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนแบบผสมเจือจาง จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่ต้องดูอาการไปก่อน หลังจากนั้นได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมือดีคนนี้มาดำเนินคดี และอยากจะถามจากปากว่า มาทำอาตมาทำไม อาตมาไม่เคยไม่มีเรื่องโกธรเคืองกันเลย แต่ทำไมมาทำกับอาตมาแบบนี้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รู้ตัวมือดีคนนี้แล้วซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป