เช้านี้ที่หมอชิต - มาที่การอภิปรายงบประมาณ 68 วาระ 2 วันแรก ใช้เวลาไปกว่า 12 ชั่วโมง จบไปที่ 13 มาตรา (กระทรวงอุดมศึกษาฯ) แต่ที่น่าห่วงอย่างมาก เมื่อกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ก็มีการชี้เรื่องการตั้งงบประมาณขาดดุล เป็นสัญญาณอันตราย ส่งผลกระทบสถานะการเงิน การคลังของประเทศ
ก่อนจะไปที่เรื่องที่เกริ่นตอนต้น การตั้งงบประมาณขาดดุล เป็นสัญญาณอันตราย ส่งผลกระทบสถานะการเงิน การคลังของประเทศ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระที่ 2 ก็มีการอภิปรายถึงหนึ่งในแผนการจัดสรรงบประมาณปี 68 ของรัฐบาล ที่มีการลดการจ่ายหนี้ให้กับธนาคารรัฐ จำนวน 35,000 ล้านบาท เพื่อรวบรวมเงินไปผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
ซึ่งประเด็นนี้ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อย ก็อภิปรายขอให้รัฐนำเงิน 35,000 ล้านบาท กลับไปชำระหนี้ของธนาคารของรัฐตามเดิม เพราะขณะนี้สถานะการเงินเสี่ยงและอาจให้ได้ไม่ครบทั้งหมด 45 ล้านคน และควรจะเลิกเรียกว่าดิจิทัลวอลเล็ตได้แล้ว เพราะไม่มีดิจิทัลและวอลเล็ตแล้ว
ทั้งนี้ นางสาวศิริกัญญา ก็เสนอว่า ควรรออนุมัติงบฯ ภายหลังการแถลงนโยบาย แล้วค่อยมาออกเป็น พ.ร.บ.โอนงบประมาณ เพราะประชาชนรอโครงการนี้มาปีกว่าแล้ว ขอให้รออีกหน่อย เพื่อให้รัฐบาลไป ออกร่างพ.ร.บ.โอนประมาณ โดยตัดงบกระทรวงของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อแจกให้ครบ 45 ล้านคน
ส่วนอีกคนที่อภิปรายดุเดือด ก็นายวีระ ธีระภัทรานนท์ กมธ.งบประมาณฯ 2568 ที่ชี้ว่า ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2568 วาระ 2 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท การตั้งงบประมาณแบบขาดดุล และประมาณการจัดเก็บรายได้เพียง 280,000 ล้านบาท และอีกส่วนจากการกู้เพื่อมาชดเชยวงเงิน 860,000 ล้านบาท กลายเป็นสัญญาณอันตรายทำให้ประเทศติดกับดักหนี้ ทำลายสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ จนนำไปสู่วิกฤตการคลังในที่สุด
อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็มีการนัดประชุมใหม่ (เวลา 09.00 น.) โดยจะเริ่มที่มาตรา 14 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ วงเงินกว่า 56,000 ล้านบาท
