สมศักดิ์ ซัดกลุ่มต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ใจแคบ ทำแก้ปัญหาไม่ได้ วอนเห็นใจคนสุโขทัย

View icon 102
วันที่ 3 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สมศักดิ์ ซัดกลุ่มต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ใจแคบ ทำแก้ปัญหาไม่ได้ วอนเห็นใจคนสุโขทัย แนะหาหน่วยงานกลาง วิเคราะห์ต้นทุนความเสียหาย เสนอใช้เขื่อนผลิตไฟฟ้าแบ่งรายได้ให้คนพื้นที่

วันนี้ (3 ก.ย.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข กล่าวถึงการเสนอสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นว่า เมื่อพูดถึงเรื่องเขื่อนใหญ่ลุ่มน้ำยม เราไม่ควรจะวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานของภาครัฐ แต่ควรหาผู้รู้มาตัดสิน ซึ่งตนได้บอกให้ สทนช.หาหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารโลก วิเคราะห์ถึงต้นทุนและความเสียหายเรื่องที่อยู่อาศัยการทำกิน เช่น ในพื้นที่ตำบลสะเอียบ จังหวัดแพร่ ก็จะมีความรุนแรง เพราะเขารักถิ่นฐาน และมีความรู้สึกว่าได้รับผลกระทบเสียหาย แต่ระหว่างลำน้ำยม คนที่เสียหายที่สุด คือภาครัฐ เพราะต้องออกมาชดเชย รวมถึงประชาชนที่เห็นใจคนถูกน้ำท่วมก็เข้าไปช่วยเหลือ ในเรื่องของอาหาร โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ได้รับการดูแลจากภาคประชาชนและจากภาครัฐเป็นจำนวนมาก จึงต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลือ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มที่ต่อต้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น มาเผาหุ่นทุกครั้งที่มีกระแส มันใจแคบเกินไป ถ้าใจแคบแบบนี้ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ควรให้หน่วยงานกลางมาช่วยดู การที่ใครพูดอะไรไม่ได้เลย คนจังหวัดแพร่ คนจังหวัดสุโขทัย เขาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตนอยู่สุโขทัยถูกล้อเลียนมาตลอดเรื่องเขื่อนเรียงหิน ครั้งนี้ตนก็ขอเขื่อนเรียงหิน ความยาว 9 พันเมตรในพื้นที่ 3 อำเภอ ที่ถูกกัดเซาะ ก็ต้องสร้างเขื่อนเรียงหินเพื่อกำแพง

“ทุกครั้งที่จะมีการพูดถึงเรื่องเขื่อนแก่งเสือเต้น ก็จะมีการเผาหุ่น ไม่รู้ว่าเผาจนผมไหม้กี่ครั้ง ใจแคบจริง ๆ พูดคุยกันบ้าง”

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เขื่อนแก่งเสือเต้นมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟ้า เพราะมีความสูงถึง 60 กว่าเมตร เมื่อน้ำตกลงมาจะมีความแรงที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มาก เมื่อนำไปขายก็สามารถแบ่งเงินให้คนในพื้นที่ได้ โดยให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์  ซึ่งก็อาจจะเป็นแนวคิดใหม่ แม้จะได้รับความเสียหาย แต่ก็จะได้รับการชดเชยรายได้ตลอดชีวิต ดังนั้น ควรหันหน้ามาคุยกัน แต่เรื่องนี้ตนไม่ได้คุยเอง เพราะไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่พูดในฐานะคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะคนสุโขทัยที่ตนรู้จัก ในอำเภอศรีสำโรง และอำเภอเมือง ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว เพราะ "สู้น้ำไม่ไหว" เหลือแต่ตนที่ยังอยู่ เพราะเป็นนักการเมืองที่เกิดที่นั่น ย้ายไปไหนไม่ได้ คนอื่นย้ายไปเจริญเติบโต คนที่ได้เรียนหนังสือ มีหลักมีฐานแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่จังหวัดสุโขทัย เพราะหนีน้ำท่วมสู้ไม่ไหว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง