สนามข่าว 7 สี - เรื่องนี้ เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี สามี-ภรรยา เดินเตะฝุ่นมากว่า 2 เดือน แต่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก ในฐานะผู้นำครอบครัว สามีต้องทำตัวเป็นหัวขโมยหาเงินให้ครอบครัว
ทุกครั้งที่ตัวสามีก่อเหตุ จะทิ้งโน้ตข้อความฝากถึงเจ้าทรัพย์ ใจความระบุว่า "I’m sorry ผมไม่อยากทำ (จำเป็น) ผมต้องการแค่เงิน ที่เหลือไม่แตะครับ วันหน้าผมจะใช้คืนนะครับ T^T"
กรณีล่าสุด ก่อเหตุร้าน "พิซซาอิตาลี" ถนนอินจันทร์ณรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ คนร้ายใช้อุปกรณ์งัดร้าน ได้โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง หมวกกันน็อก 2 ใบ และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 27,000 บาท
ตำรวจ ตามแกะรอยและจับกุมตัวได้ ชื่อนายวิทวัธ อายุ 31 ปี แจ้งเหตุจำเป็นที่ต้องลงมือ เพราะตกงานทั้งตัวเองและภรรยา ต้องการเงินไปซื้อนมให้ลูกอายุขวบเศษ
เหตุที่เขียนเป็นอักษรภาษาอังกฤษ เพราะภรรยาเคยทำงานที่นี่ จึงรู้ว่าเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ และเป็นนายจ้างที่ดี แต่เหตุที่ถูกเลิกจ้าง เพราะภาวะเศรษฐกิจ แม้จะไม่อยากทำ แต่มีความจำเป็นจริง ๆ ถ้าไม่ทำครอบครัวก็อด
นอกจากร้านนี้แล้ว ยังมีร้านอื่น ๆ ที่นายวิธวัชก่อเหตุด้วย ตำรวจจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้อง
ตำรวจยังแจ้งเตือน ช่วงนี้หัวขโมยชุก หากกลัวเรื่องความปลอดภัยแนะนำให้เข้าโครงการ "เพื่อนบ้านเตือนภัย" โดยมีตำรวจแต่ละพื้นที่เป็นแม่ข่าย ส่งสายตรวจสอดส่องดูแลทุกระยะ
